ทำอย่างไร เมื่อถูกพิษของแมงกะพรุน
เวลาเราไปเล่นน้ำทะเล มักถูกเตือนเสมอว่าให้ระวังแมงกะพรุนไว้ด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งดีครับ ที่ต้องระวังไว้ก่อน โดยเฉพาะการไปเล่นน้ำทะเลในบางที่ บางฤดูกาล ซึ่งจะมีแมงกะพรุนชุกชุมมาก ถ้าเลี่ยงได้ก็จะเป็นสิ่งดี เพราะถ้าใครถูกแมงกะพรุนเข้าไปแล้ว จะไม่สนุกเลยทีเดียว
ก่อนที่จะมาถึงวิธีการดูแลรักษาพิษจากแมงกะพรุน เรามารู้เรื่องราวเกี่ยวกับแมงกะพรุนกันสักนิดก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ
ลองมาดูลักษณะผิวหนังที่ถูกพิษของแมงกะพรุนครับ
ถ้าจะสังเกต ดีๆทั้ง 2 ภาพ ลักษณะแผลจะเป็นทางยาว ตามแนวของหนวดแมงกะพรุนที่พาดผ่าน บางรายแผลอาจรุนแรงกว่านี้มาก เช่นมีการพุพอง แดง และอักเสบมาก ขึ้นอยู่กับจำนวนพิษ และการดูแลรักษาเบื้องต้นซึ่งมีความสำคัญมาก
ทีนี้เราลองมาดูกันครับว่าเมื่อถูกแมงกะพรุนแล้วควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไรดี
เหล่านี้เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกแมงกะพรุน คนที่เล่นน้ำทะเลบ่อยๆต้องจำไว้นะครับ สำหรับการรักษาอื่นๆ โดยเฉพาะการใช้ผักบุ้งทะเล จะต้องใช้อย่างไร และจะใช้ได้ผลหรือไม่ อ่านต่อได้ที่บทความนี้ครับ
การรักษาพิษของแมงกะพรุนด้วยผักบุ้งทะเล
หลายคนคงเคยรู้มาว่า ถ้าใครถูกพิษของแมงกะพรุนให้รีบใช้ใบผักบุ้งทะเลที่อยู่ตามชายหาดทาแผล จะช่วยรักษาแผลได้ดี ซึ่งก็เป็นความจริงครับ ในตำราแพทย์แผนไทยมีการเขียนกันมานานแล้วว่าใช้ได้ผล และในทางวิทยาศาสตร์เองเคยมีการพิสูจน์แล้วว่า สารในผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ลดการอักเสบ และฤทธิ์ลดอาการปวดได้ดี แต่การนำผักบุ้งทะเลมาใช้รักษาแผลจากแมงกะพรุนนั้น มีข้อควรรู้ดังนี้ครับ
แม้ว่าในภูมิปัญญาชาวบ้าน และตำราแพทย์แผนไทย กล่าวยืนยันถึงประสิทธิภาพของผักบุ้งทะเลในการรักษาแผลจากแมงกะพรุนเป็นอย่างดี ว่าช่วยสมานแผล ทำให้แผลให้เร็วขึ้น และเกิดแผลเป็นน้อยลง แต่ในตำราการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องผักบุ้งทะเลไว้เลยครับ เนื่องจากไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกมายืนยันประสิทธิภาพดังกล่าว
ทางคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กรมแพทย์ทหารเรือ และโรงพยาบาลหลายแห่งในกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกันทำการวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาผักบุ้งทะเล เมื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยที่ถูกแมงกะพรุน โดยยาผักบุ้งทะเลที่ใช้นั้น ได้สกัดมาจากใบผักบุ้งทะเลที่สะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน และทำให้อยู่ในรูปของขี้ผึ้ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทันที
แต่ยาผักบุ้งทะเลดังกล่าวขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยครับ ไม่มีจำหน่าย และไม่สามารถจ่ายแจกได้ แต่ถ้ามีใครที่ถูกแมงกะพรุนมาไม่เกิน 7 วัน และสนใจเข้าร่วมการวิจัยการรักษาดัวยผักบุ้งทะเล
จริงๆแล้วทาง ’เขตร้อน หวังว่าถ้าผลการวิจัยดังกล่าวออกมาว่า ผักบุ้งทะเลของเรามีประสิทธิภาพในการรักษาแผลจากแมงกะพรุนได้จริง จะได้นำไปเผยแพร่ทางวิชาการ และจะช่วยทำให้สมุนไพรไทยของเราเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
ที่มาhttp://www.thaitravelclinic.com/
เวลาเราไปเล่นน้ำทะเล มักถูกเตือนเสมอว่าให้ระวังแมงกะพรุนไว้ด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งดีครับ ที่ต้องระวังไว้ก่อน โดยเฉพาะการไปเล่นน้ำทะเลในบางที่ บางฤดูกาล ซึ่งจะมีแมงกะพรุนชุกชุมมาก ถ้าเลี่ยงได้ก็จะเป็นสิ่งดี เพราะถ้าใครถูกแมงกะพรุนเข้าไปแล้ว จะไม่สนุกเลยทีเดียว
ก่อนที่จะมาถึงวิธีการดูแลรักษาพิษจากแมงกะพรุน เรามารู้เรื่องราวเกี่ยวกับแมงกะพรุนกันสักนิดก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ
- จริงๆแล้วแมงกะพรุนมีหลายชนิดมาก ชนิดที่เราคุ้นเคยกัน กินได้ และเห็นอยู่ตามหม้อสุกี้หรือเย็นตาโฟ ส่วนใหญ่และเป็นแมงกะพรุนหนัง หรือแมงกะพรุนจาน พวกนี้ไม่น่ากลัว แต่แมงกะพรุนที่เรากลัวคือ แมงกะพรุนไฟ ซึ่งตัวจะออกคล้ำๆแดงๆ ซึ่งจะมีพิษ แต่เราไม่ควรดูแค่สีหรือรูปร่างของแมงกะพรุนนะครับว่ามีพิษหรือไม่ ให้พยายามนึกไว้เสมอว่าแมงกะพรุนนั้นมีพิษ อยู่ไกลๆมันจะดีกว่า
- พิษของแมงกะพรุนจะอยู่ที่สายหรือหนวดของมัน ซึ่งจะมีเข็มพิษอยู่จำนวนมาก ในบางครั้งเวลาเราเล่นน้ำทะเล เราอาจจะไม่เห็นตัวมัน แต่โดนแค่สายหรือหนวดมันซึ่งหลุดออกมาจากตัวเรากูถูกพิษได้
- พิษของแมงกะพรุนแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน บางชนิดมีความรุนแรงมากทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้นได้โดยเฉพาะ Box Jellyfish แต่แมงกะพรุนส่วนใหญ่จะทำให้เกิดปัญหาที่ผิวหนัง ทำให้เกิดการปวดแสบปวดร้อน และผิวหนังอักเสบตามมา
ลองมาดูลักษณะผิวหนังที่ถูกพิษของแมงกะพรุนครับ
ถ้าจะสังเกต ดีๆทั้ง 2 ภาพ ลักษณะแผลจะเป็นทางยาว ตามแนวของหนวดแมงกะพรุนที่พาดผ่าน บางรายแผลอาจรุนแรงกว่านี้มาก เช่นมีการพุพอง แดง และอักเสบมาก ขึ้นอยู่กับจำนวนพิษ และการดูแลรักษาเบื้องต้นซึ่งมีความสำคัญมาก
ทีนี้เราลองมาดูกันครับว่าเมื่อถูกแมงกะพรุนแล้วควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไรดี
- อย่างแรกเลย ถ้าถูกแมงกะพรุน ควรรีบขึ้นจากน้ำทันที ไม่ควรฝืนเล่นน้ำต่อ เพราะอาการอาจจะรุนแรงขึ้น มีการแพ้และถึงกับจมน้ำได้ เพื่อนๆเองที่เล่นน้ำอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะเข้าไปช่วย สังเกตสังนิดนะครับว่ามีแมงกะพรุนอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งเราเขาไปช่วยเพื่อนแบบไม่ระวัง อาจจะถูกแมงกะพรุนอีกคนก็ได้
- ถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง หมดสติหรือหยุดหายใจ ให้รีบตามคนช่วยเหลือ และช่วยฟื้นคืนชีพทันที
- ควรใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณแผลโดยเร็ว น้ำส้มสายชูจะช่วยยังยั้งไม่ให้เข็มพิษแตกเพิ่มขึ้น ห้ามถู หรือสัมผัสบริเวณแผลด้วยมือเปล่า เพราะอาจจะมีเข็มพิษอยู่ ถ้ายังมีหนวดติดอยู่ให้เอาออกด้วยความระมัดระวัง โดยใช้ที่คีบ
- ถ้าไม่มีน้ำส้มสายชูให้ล้างด้วยน้ำทะเล ไม่ควรใช้น้ำอย่างอื่นล้าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำจืด น้ำปัสสาวะ น้ำมันต่างๆ
- ถ้ามีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไป
- แม้ว่าถ้าผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง ต้องสังเกตอาการต่ออย่างน้อย 1 ชั่วโมง เนื่องจากพิษของแมงกะพรุนบางชนิด โดยเฉพาะ Irukandji ในช่วงแรกอาการจะไม่รุนแรง และจะมารุนแรงภายหลังได้
เหล่านี้เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกแมงกะพรุน คนที่เล่นน้ำทะเลบ่อยๆต้องจำไว้นะครับ สำหรับการรักษาอื่นๆ โดยเฉพาะการใช้ผักบุ้งทะเล จะต้องใช้อย่างไร และจะใช้ได้ผลหรือไม่ อ่านต่อได้ที่บทความนี้ครับ
การรักษาพิษของแมงกะพรุนด้วยผักบุ้งทะเล
หลายคนคงเคยรู้มาว่า ถ้าใครถูกพิษของแมงกะพรุนให้รีบใช้ใบผักบุ้งทะเลที่อยู่ตามชายหาดทาแผล จะช่วยรักษาแผลได้ดี ซึ่งก็เป็นความจริงครับ ในตำราแพทย์แผนไทยมีการเขียนกันมานานแล้วว่าใช้ได้ผล และในทางวิทยาศาสตร์เองเคยมีการพิสูจน์แล้วว่า สารในผักบุ้งทะเลมีฤทธิ์ลดการอักเสบ และฤทธิ์ลดอาการปวดได้ดี แต่การนำผักบุ้งทะเลมาใช้รักษาแผลจากแมงกะพรุนนั้น มีข้อควรรู้ดังนี้ครับ
- ผักบุ้งทะเลสามารถใช้รักษาแผลจากแมงกะพรุนได้ดี แต่ไม่มีที่ใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เฉียบพลัน
- การใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณแผลยังเป็นสิ่งสำคัญมากและควรจะรีบทำก่อนใช้ผักบุ้งทะเล เพราะจะช่วยลดการเกิดพิษได้ ไม่ควรใช้ผักบุ้งทะเลทาหรือถูแผลโดยตรง โดยเฉพาะก่อนให้น้ำส้มสายชู
- การนำผักบุ้งทะเลมาใช้ให้ถูกวิธีนั้น ควรจะไม่มีสิ่งปนเปื้อน และต้องล้างให้สะอาด นำใบมาตำ และคั้นเอาน้ำมาทาตรงแผลบ่อยๆ
- ในข้อ 3 จะเห็นว่า การใช้ผักบุ้งทะเลให้ถูกวิธีไม่ใช่ของง่าย เนื่องจากต้องนำมาล้าง และคั้นเอาน้ำมาทา ส่วนการรักษาแบบพื้นบ้าน โดยวิ่งไปเอาผักบุ้งทะเลมาตำ หรือมาขยำ และโปะลงไปที่แผลโดยตรงนั้น ไม่ควรทำครับ เพราะอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใบผักบุ้งทะเลที่นำมาใช้มีสารหรือเชื้อโรคปนเปื้อนจะทำให้แผลอักเสบติดเชื้อมากยิ่งขึ้น
- ห้ามนำใบผักบุ้งทะเลมากิน เนื่องจากมีพิษ ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ มึนงงและวิงเวียนได้
แม้ว่าในภูมิปัญญาชาวบ้าน และตำราแพทย์แผนไทย กล่าวยืนยันถึงประสิทธิภาพของผักบุ้งทะเลในการรักษาแผลจากแมงกะพรุนเป็นอย่างดี ว่าช่วยสมานแผล ทำให้แผลให้เร็วขึ้น และเกิดแผลเป็นน้อยลง แต่ในตำราการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องผักบุ้งทะเลไว้เลยครับ เนื่องจากไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกมายืนยันประสิทธิภาพดังกล่าว
ทางคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กรมแพทย์ทหารเรือ และโรงพยาบาลหลายแห่งในกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกันทำการวิจัยเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาผักบุ้งทะเล เมื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยที่ถูกแมงกะพรุน โดยยาผักบุ้งทะเลที่ใช้นั้น ได้สกัดมาจากใบผักบุ้งทะเลที่สะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน และทำให้อยู่ในรูปของขี้ผึ้ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทันที
แต่ยาผักบุ้งทะเลดังกล่าวขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยครับ ไม่มีจำหน่าย และไม่สามารถจ่ายแจกได้ แต่ถ้ามีใครที่ถูกแมงกะพรุนมาไม่เกิน 7 วัน และสนใจเข้าร่วมการวิจัยการรักษาดัวยผักบุ้งทะเล
จริงๆแล้วทาง ’เขตร้อน หวังว่าถ้าผลการวิจัยดังกล่าวออกมาว่า ผักบุ้งทะเลของเรามีประสิทธิภาพในการรักษาแผลจากแมงกะพรุนได้จริง จะได้นำไปเผยแพร่ทางวิชาการ และจะช่วยทำให้สมุนไพรไทยของเราเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
ที่มาhttp://www.thaitravelclinic.com/