ปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี
น้ำทะเลเปลี่ยนสี (Red Tides) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของแพลงก์ตอนบางชนิด จนทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีไป อาจมีทั้งที่เป็นประโยชน์และมีผลระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งในบางครั้งเป็นเหตุให้สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมากได้เนื่องจากคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลง เช่น ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำลดลงต่ำมาก หรือ แพลงก์ตอนพืชปล่อยสารพิษบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำออกมาปริมาณมาก (biotoxin)
การเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีมีความสัมพันธ์โดยตรงกับกิจกรรมมนุษย์บริเวณชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณอินทรีย์สารบริเวณชายฝั่ง เช่น น้ำเสียจากบ้านเรือนชุมชน จากกิจกรรมการเกษตร อุตสาหกรรม และการขยายตัวของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ในประเทศไทยมีรายงานการพบปรากฏการณ์นี้มานานแล้ว ซึ่งชาวบ้านมักเรียกว่าปรากฏการณ์ ”ขี้ปลาวาฬ” เพราะมองเห็นแพลงก์ตอนจำนวนมากเป็นฝ้าลอยอยู่บนผิวน้ำ และเริ่มมีรายงานว่าพบน้ำทะเลเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง เขียว และน้ำตาล สีที่เห็นเปลี่ยนแปลงไปตามชนิดแพลงก์ตอนที่เกิดขึ้น
น้ำทะเลเปลี่ยนสี (Red Tides) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของแพลงก์ตอนบางชนิด จนทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีไป อาจมีทั้งที่เป็นประโยชน์และมีผลระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งในบางครั้งเป็นเหตุให้สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมากได้เนื่องจากคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลง เช่น ปริมาณออกซิเจนละลายน้ำลดลงต่ำมาก หรือ แพลงก์ตอนพืชปล่อยสารพิษบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำออกมาปริมาณมาก (biotoxin)
การเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีมีความสัมพันธ์โดยตรงกับกิจกรรมมนุษย์บริเวณชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณอินทรีย์สารบริเวณชายฝั่ง เช่น น้ำเสียจากบ้านเรือนชุมชน จากกิจกรรมการเกษตร อุตสาหกรรม และการขยายตัวของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ในประเทศไทยมีรายงานการพบปรากฏการณ์นี้มานานแล้ว ซึ่งชาวบ้านมักเรียกว่าปรากฏการณ์ ”ขี้ปลาวาฬ” เพราะมองเห็นแพลงก์ตอนจำนวนมากเป็นฝ้าลอยอยู่บนผิวน้ำ และเริ่มมีรายงานว่าพบน้ำทะเลเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง เขียว และน้ำตาล สีที่เห็นเปลี่ยนแปลงไปตามชนิดแพลงก์ตอนที่เกิดขึ้น