ทะเลจังหวัดระยอง
เกาะกุฎี เป็นเกาะหนึ่งในวรรณกรรมของสุนทรภู่ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งประมาณ 6 กม. มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มีเกาะบริวาร 2 เกาะ คือ เกาะค้างคาวและเกาะถ้ำฤษีเกาะกุฎีเป็นจุดที่ตั้งที่ทำการหน่วยย่อยของอุทยานฯ มีหาดทรายสวยงาม โดยรอบเกาะมีแนวปะการังเหมาะแก่การดำน้ำดูปะการัง
เกาะกุฎี อยู่ไม่ไกลจากหาดสวนสน ห่างจากฝั่งออกไปเพียง 6-7 กิโลเมตร สามารถไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริป (เช้าไป - เย็นกลับ) โดยเหมาเรือได้จากบริเวณหาดสวนสน ที่มีให้เช่าทั้งเรือยนต์ เรือสปีดโบ๊ท หรือเหมาเรือลากเรือกล้วย (นั่งได้ประมาณ 6-7 คน) ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงเกาะกุฎี สามารถชมรอบเกาะ ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นรอบๆ หรือคนที่อยากพักค้างแรมบนเกาะก็สามารถติดต่อจองบ้านพักล่วงหน้ากับทางอุทยานแห่งชาติ หรือจะนำเต็นท์ไปกางในบริเวณอุทยานก็ได้
เกาะกุฎีมีรูปร่างคล้ายกับรูปประเทศอินเดีย มีเกาะค้างคาว เกาะเล็กๆ ใกล้เกาะกุฎีทางทิศใต้ รอบๆ เกาะ มีแนวปะการังน้ำตื้นเป็นแนวกว้าง เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาสวยๆ กิจกรรมหลักจึงเป็นการดำน้ำรอบเกาะ บนเกาะกุฎียังเต็มไปด้วยธรรมชาติ มีเส้นทางให้เดินเล่นได้รอบเกาะ ระยะทางประมาณ 1.1 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที มีทางเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว "ผานิลมังกร" ที่อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ เส้นทางเดินผ่านซุ้มต้นไม้ขึ้นไปบนเขา ไม่ลาดชันมาก ไม่ต้องปีนป่าย ระยะทางประมาณ 480 เมตร จากที่ทำการด้านล่าง เป็นจุดมองเห็นวิวของแนวปะการังรอบๆ เกาะ อ่าวหูกวาง และช่องเขาระหว่างเกาะถ้ำค้างคาวกับเกาะกุฏี ที่เวลาน้ำลงเยอะๆ ก็สามารถเดินไปเที่ยวที่ถ้ำค้างคาวได้ ส่วนชายหาดที่สวยที่สุดอยู่ด้านหน้าเกาะ คือหาดสินสมุทร เป็นบริเวณที่เรือจะมาจอดรับส่งด้วย ชื่อต่างๆ บนเกาะนี้จะถูกเรียกตามชื่อตัวละครในวรรณคดีในเรื่องพระอภัยมณี ที่เป็นผลงานอันโด่งดังของท่านสุนทรภู่ อย่างเช่นผานิลมังกร หาดสินสมุทร แหลมถ้ำฤาษี
เกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งบ้านเพ ประมาณ 6 กม. ใช้เวลานั่งเรือไปยังเกาะเสม็ดประมาณ 30 นาทีถึง ท่าเรือหน้าด่าน บนเกาะเสม็ด จากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางโดยรถสองแถว หรือ เช่ามอเตอร์ไซค์ ไปแต่หาด เช่นอ่าวน้อยหน่าอ่าวลูกโยนหาดทรายแก้วอ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวช่อ อ่าวตะวันอ่าววงเดือนอ่าวเทียนอ่าวหวายอ่าวกิ่วอ่าวกะรังซึ่งอยู่ปลายสุด และที่พลาดไม่ได้กับอ่าวพร้าว เป็นเพียงอ่าวเดียวที่อยู่ตะวันตกของเกาะเสม็ด สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ที่ อ่าวพร้าวแห่งนี้.
การเดินทางไปเกาะเสม็ดนั้น ไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน นักท่องเที่ยวควรสำรองที่พักไว้ล่วงหน้า มิฉะนั้นคงเสียเวลากะเตงกระเป๋าไปหาห้องพักเหนื่อยแน่ แต่ละหาดอยู่ห่างไกลกันมากทีเดียว อ่าวที่อยู่บนเกาะมีดังนี้อ่าวน้อยหน่า
อ่าววงเดือน หาดทรายแก้ว
อ่าวพร้าว อ่าวช่อ
อ่าวปะการัง อ่าวกิ่ว
อ่าวหวาย อ่าวไผ่
อ่าวนวล อ่าวลุงดำ
อ่าวลูกโยน อ่าวแสงเทียน
อ่าวทับทิม
การเดินทางไปเกาะเสม็ดนั้น ไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน นักท่องเที่ยวควรสำรองที่พักไว้ล่วงหน้า มิฉะนั้นคงเสียเวลากะเตงกระเป๋าไปหาห้องพักเหนื่อยแน่ แต่ละหาดอยู่ห่างไกลกันมากทีเดียว อ่าวที่อยู่บนเกาะมีดังนี้อ่าวน้อยหน่า
อ่าววงเดือน หาดทรายแก้ว
อ่าวพร้าว อ่าวช่อ
อ่าวปะการัง อ่าวกิ่ว
อ่าวหวาย อ่าวไผ่
อ่าวนวล อ่าวลุงดำ
อ่าวลูกโยน อ่าวแสงเทียน
อ่าวทับทิม
เกาะทะลุ
เกาะทะลุ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเหมือนกับเกาะกุฎี อยู่ห่างจากเกาะกุฎีไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 6 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 69 ไร่ ที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ด้านทิศตะวันตกเป็นแนวผาสูงชัน ทิศตะวันออกและทิศใต้เป็นหาดทรายขาวสะอาด น้ำใส สามารถเล่นน้ำได้ ฝั่งด้านทิศตะวันออกมีปะการังที่เหมาะกับการดำน้ำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น ลักษณะอันโดดเด่นของเกาะ และเป็นที่มาของชื่อเกาะ คือช่องหิน หรือโพลงธรรมชาติบริเวณแหลมหิน ช่องว่างตรงกลางน้ำทะเลสามารถทะลุผ่่านได้ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะซื้อวันเดย์ทริปจากเกาะเสม็ด เพื่อเที่ยวรอบเกาะ และดำน้ำดูปะการัง
เกาะทะลุ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเหมือนกับเกาะกุฎี อยู่ห่างจากเกาะกุฎีไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 6 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 69 ไร่ ที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ด้านทิศตะวันตกเป็นแนวผาสูงชัน ทิศตะวันออกและทิศใต้เป็นหาดทรายขาวสะอาด น้ำใส สามารถเล่นน้ำได้ ฝั่งด้านทิศตะวันออกมีปะการังที่เหมาะกับการดำน้ำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น ลักษณะอันโดดเด่นของเกาะ และเป็นที่มาของชื่อเกาะ คือช่องหิน หรือโพลงธรรมชาติบริเวณแหลมหิน ช่องว่างตรงกลางน้ำทะเลสามารถทะลุผ่่านได้ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะซื้อวันเดย์ทริปจากเกาะเสม็ด เพื่อเที่ยวรอบเกาะ และดำน้ำดูปะการัง
เกาะมันกลาง เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มาก อยู่ถัดออกมาไม่ไกลจากเกาะมันใน จากเกาะมันในถึงเกาะมันกลางใช้เวลาแค่ 10 นาที เป็นเกาะเอกชน สามารถพักบนเกาะได้โดยติดต่อแพ็คเกจทัวร์จากบนฝั่ง บนเกาะมีที่พักอยู่เพียงแห่งเดียว คือ มันตาคีรี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท
เกาะมันกลาง มีหาดทรายขาวสะอาด ทรายมีทั้งเป็นสีส้มค่อนข้างหยาบ และขาวละเอียดแบบเกาะเสม็ด จุดเด่นของเกาะคือมีความเป็นส่วนตัว ที่พักออกในแนวกระท่อมริมทะเล ตั้งอยู่บนหาดเลย นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดธรรมชาติทำกิจกรรมบนเกาะได้ เช่นเล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณรอบเกาะ ชมฟาร์มหอย เช่าเรือแคนนูพายเล่นรอบเกาะ เดินเล่นรอบเกาะ ซึ่งวิวหนึ่งบนเกาะมันกลางที่ หลายคนพูดถึงคือ จุดที่มีลักษณะเหมือนทะเลแหวกเล็กๆ มีแนวสันทรายเชื่อมระหว่างเกาะกับกลุ่มโขดหินในทะเล เวลาน้ำลงจะเห็นสันทรายโผล่มา มีลักษณะเดียวกันกับทะเลแหวก ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะมันกลางมีค่อนข้างจำกัด เช่นน้ำจืดที่ต้องนำไปจากฝั่ง ไฟฟ้าต้องปั่นใช้เอง ทางเกาะจึงมีเวลาในการเปิด-ปิดไฟฟ้า โดยให้ใช้ไฟฟ้าได้เฉพาะช่วงกลางคืน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 8.00 น.
เกาะมันกลาง มีหาดทรายขาวสะอาด ทรายมีทั้งเป็นสีส้มค่อนข้างหยาบ และขาวละเอียดแบบเกาะเสม็ด จุดเด่นของเกาะคือมีความเป็นส่วนตัว ที่พักออกในแนวกระท่อมริมทะเล ตั้งอยู่บนหาดเลย นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิดธรรมชาติทำกิจกรรมบนเกาะได้ เช่นเล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณรอบเกาะ ชมฟาร์มหอย เช่าเรือแคนนูพายเล่นรอบเกาะ เดินเล่นรอบเกาะ ซึ่งวิวหนึ่งบนเกาะมันกลางที่ หลายคนพูดถึงคือ จุดที่มีลักษณะเหมือนทะเลแหวกเล็กๆ มีแนวสันทรายเชื่อมระหว่างเกาะกับกลุ่มโขดหินในทะเล เวลาน้ำลงจะเห็นสันทรายโผล่มา มีลักษณะเดียวกันกับทะเลแหวก ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะมันกลางมีค่อนข้างจำกัด เช่นน้ำจืดที่ต้องนำไปจากฝั่ง ไฟฟ้าต้องปั่นใช้เอง ทางเกาะจึงมีเวลาในการเปิด-ปิดไฟฟ้า โดยให้ใช้ไฟฟ้าได้เฉพาะช่วงกลางคืน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 8.00 น.
เกาะมันใน เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะเสม็ด และใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมัน มีเนื้อที่ประมาณ 131 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุด ห่างจากแหลมแม่พิมพ์ประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากแหลมแม่พิมพ์ประมาณ 30 นาที เกาะนี้นักท่องเที่ยวสามารถแวะเยี่ยมชมสถานีอนุรักษ์พันธ์ุเต่าทะเล เล่นน้ำ เดินเที่ยวรอบเกาะเพื่อศึกษาธรรมชาติ และชมปะการังรอบเกาะได้ แต่ไม่อนุญาติให้พักค้างคืนบนเกาะได้
เกาะมันใน เป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โครงการนี้เริ่มดำเนินการ โดยพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยว่าเต่าทะเลไทยใกล้จะสูญพันธุ์ และหาแหล่งธรรมชาติในการเพาะพันธุ์ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ในปี พ.ศ. 2522 พระองค์จึงทรงพระราชทานเกาะมันใน ที่เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการก่อตั้งโครงการอนุรักษ์พันธ์ุเต่าทะเลในบริเวณอ่าวไทย โดยมีชื่อโครงการว่า “โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” ภายใต้การดูแลของกรมประมง และกองทัพเรือ จุดประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์ เพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์เต่าทะเล นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ต่อไป ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โครงการได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก” ดูแลโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สถานีอนุรักษ์พันธ์ุเต่าทะเลตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ มีอาคารพิพิธภัณฑ์เต่าทะเล ที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจถึงลักษณะการดำรงชีวิต แหล่งที่อยู่อาศัย และชีวิตความเป็นอยู่ของเต่าทะเล นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างเต่าทะเลแต่ละชนิดสตาร์ฟไว้ให้ดูด้วย เช่น เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ที่พบในบริเวณเกาะมันใน
บริเวณนอกตัวอาคาร แนวหาด และโดยรอบเกาะ มีโรงเพาะฟักไข่เต่าทะเล บ่อเต่าที่เป็นพ่อ-แม่พันธุ์ บ่อพักฟื้นเต่าทะเลหลายชนิด เช่นเต่าหญ้า เต่ากระ เต่าตนุ บ่ออนุบาลเต่า ที่เป็นบ่อที่ปลอดเชื้อ
ธรรมชาติของเต่าทะเล เมื่อวางไข่ที่บริเวณชายหาดแล้ว แม่เต่าก็จะปล่อยให้ลูกเต่าฟักไข่แล้วกลับสู่ทะเลเอง โดยไม่ต้องดูแล ทางศูนย์วิจัยฯ จะนำไข่จำนวนครึ่งหนึ่งมาฟักในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เพราะไข่เต่าที่ฟักเองตามธรรมชาติมักจะได้เพศเมียเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเมืองไทยมีอากาศค่อนข้างร้อน เมื่อนำบางส่วนมาฟักในห้องควบคุมอุณหภูมิ ก็จะได้เต่าเพศผู้ด้วย จากนั้นก็จะนำมาเลี้ยงให้เติบโต แข็งแรง ในบ่ออนุบาลปลอดเชื้อ โดยแยกบ่อตามอายุของเต่าแต่ละเดือน เมื่อเลี้ยงจนอายุครบ 1 ปี แล้วจึงจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ทางตอนใต้ของเกาะ ห่างจากศูนย์วิจัยฯ ประมาณ 200 เมตร ถูกจัดให้เป็นคอกเต่าทะเลธรรมชาติ มีพื้นที่ขนาด 30 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ชายหาดและในทะเล เพื่อเป็นเขตที่ให้พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์เต่าทะเล สามารถใช้ชีวิตอิสระ เป็นแหล่งขยายพันธุ์ที่ปลอดภัย
เกาะมันใน เป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โครงการนี้เริ่มดำเนินการ โดยพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยว่าเต่าทะเลไทยใกล้จะสูญพันธุ์ และหาแหล่งธรรมชาติในการเพาะพันธุ์ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ในปี พ.ศ. 2522 พระองค์จึงทรงพระราชทานเกาะมันใน ที่เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการก่อตั้งโครงการอนุรักษ์พันธ์ุเต่าทะเลในบริเวณอ่าวไทย โดยมีชื่อโครงการว่า “โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” ภายใต้การดูแลของกรมประมง และกองทัพเรือ จุดประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์ เพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์เต่าทะเล นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ต่อไป ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โครงการได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก” ดูแลโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สถานีอนุรักษ์พันธ์ุเต่าทะเลตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ มีอาคารพิพิธภัณฑ์เต่าทะเล ที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจถึงลักษณะการดำรงชีวิต แหล่งที่อยู่อาศัย และชีวิตความเป็นอยู่ของเต่าทะเล นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างเต่าทะเลแต่ละชนิดสตาร์ฟไว้ให้ดูด้วย เช่น เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ที่พบในบริเวณเกาะมันใน
บริเวณนอกตัวอาคาร แนวหาด และโดยรอบเกาะ มีโรงเพาะฟักไข่เต่าทะเล บ่อเต่าที่เป็นพ่อ-แม่พันธุ์ บ่อพักฟื้นเต่าทะเลหลายชนิด เช่นเต่าหญ้า เต่ากระ เต่าตนุ บ่ออนุบาลเต่า ที่เป็นบ่อที่ปลอดเชื้อ
ธรรมชาติของเต่าทะเล เมื่อวางไข่ที่บริเวณชายหาดแล้ว แม่เต่าก็จะปล่อยให้ลูกเต่าฟักไข่แล้วกลับสู่ทะเลเอง โดยไม่ต้องดูแล ทางศูนย์วิจัยฯ จะนำไข่จำนวนครึ่งหนึ่งมาฟักในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เพราะไข่เต่าที่ฟักเองตามธรรมชาติมักจะได้เพศเมียเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเมืองไทยมีอากาศค่อนข้างร้อน เมื่อนำบางส่วนมาฟักในห้องควบคุมอุณหภูมิ ก็จะได้เต่าเพศผู้ด้วย จากนั้นก็จะนำมาเลี้ยงให้เติบโต แข็งแรง ในบ่ออนุบาลปลอดเชื้อ โดยแยกบ่อตามอายุของเต่าแต่ละเดือน เมื่อเลี้ยงจนอายุครบ 1 ปี แล้วจึงจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ทางตอนใต้ของเกาะ ห่างจากศูนย์วิจัยฯ ประมาณ 200 เมตร ถูกจัดให้เป็นคอกเต่าทะเลธรรมชาติ มีพื้นที่ขนาด 30 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ชายหาดและในทะเล เพื่อเป็นเขตที่ให้พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์เต่าทะเล สามารถใช้ชีวิตอิสระ เป็นแหล่งขยายพันธุ์ที่ปลอดภัย
เกาะมันนอก เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ริมนอกชายฝั่งมากที่สุด เป็นเกาะเอกชน มีความสวยงาม และเป็นที่ที่หลายคนฝันที่จะได้ไปนอนติดเกาะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่เงียบสงบ นอนฟังเสียงคลื่น และชมทะเลสวยๆ หาดทรายขาว น้ำใส ดำน้ำชมปะการัง ในบรรยากาศที่เงียบสงบเหมือนอยู่บนเกาะส่วนตัว บนเกาะมีที่พักอยู่เพียงแห่งเดียวคือ เกาะมันนอกรีสอร์ท ที่ต้องติดต่อขอเข้าพักก่อนไป
เกาะมันนอก เป็นเกาะขนาดเล็กๆ มีเนื้อที่ประมาณ 95 ไร่ ห่างจากท่าเรือแหลมตาลประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งเรือไปประมาณ 45 นาที เกาะมีลักษณะกลม มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ส่วนกลางของเกาะเป็นป่า ด้านตะวันออกเป็นหาดทรายขาวละเอียดตลอดแนว มีปะการังน้ำตื้นให้เห็นตั้งแต่บริเวณริมชายหาด ที่สามารถดำน้ำดูได้หน้าหาด หรือเช่าเรือดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณรอบเกาะ เช่าเรือแคนนูพายเล่น สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลสวย น้ำใส บริเวณศาลาริมทะเล เดินเล่นชมวิวตามทางเดินไม้หน้าหาด เดินเล่นชมธรรมชาติและทัศนียภาพรอบเกาะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะค่อนข้างจำกัด ทั้งน้ำจืดและไฟฟ้า ไฟฟ้าบนเกาะจึงเปิดให้ใช้ได้เฉพาะช่วงกลางคืน และจะปิดการใช้ไฟฟ้าในช่วง 9.00 - 14.00 น.
ห้องพักบนเกาะมันนอก เป็นเกาะส่วนตัวและเป็นเกาะปิด จึงค่อนข้างมีความปลอดภัย และยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติ จึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรมหรือที่พักโดยทั่วไป เช่น ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น และไม่มีเครื่องใช้ส่วนตัวพวกผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม ภายในห้องพัก นักท่องเที่ยวจึงต้องเตรียมมาเอง
เกาะมันนอก เป็นเกาะขนาดเล็กๆ มีเนื้อที่ประมาณ 95 ไร่ ห่างจากท่าเรือแหลมตาลประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งเรือไปประมาณ 45 นาที เกาะมีลักษณะกลม มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ส่วนกลางของเกาะเป็นป่า ด้านตะวันออกเป็นหาดทรายขาวละเอียดตลอดแนว มีปะการังน้ำตื้นให้เห็นตั้งแต่บริเวณริมชายหาด ที่สามารถดำน้ำดูได้หน้าหาด หรือเช่าเรือดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณรอบเกาะ เช่าเรือแคนนูพายเล่น สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลสวย น้ำใส บริเวณศาลาริมทะเล เดินเล่นชมวิวตามทางเดินไม้หน้าหาด เดินเล่นชมธรรมชาติและทัศนียภาพรอบเกาะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะค่อนข้างจำกัด ทั้งน้ำจืดและไฟฟ้า ไฟฟ้าบนเกาะจึงเปิดให้ใช้ได้เฉพาะช่วงกลางคืน และจะปิดการใช้ไฟฟ้าในช่วง 9.00 - 14.00 น.
ห้องพักบนเกาะมันนอก เป็นเกาะส่วนตัวและเป็นเกาะปิด จึงค่อนข้างมีความปลอดภัย และยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติ จึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรมหรือที่พักโดยทั่วไป เช่น ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น และไม่มีเครื่องใช้ส่วนตัวพวกผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม ภายในห้องพัก นักท่องเที่ยวจึงต้องเตรียมมาเอง
หาดแม่พิมพ์ เป็นหาดชื่อดังของจังหวัดระยอง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักกันดี เป็นหาดที่ไม่เคยเงียบเหงา ยิ่งหน้าเทศกาล วันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวๆ จะมีนักท่องเทีี่ยวแวะมาเที่ยวพักผ่อนที่หาดนี้ค่อนข้างมาก ส่วนแหลมแม่พิมพ์เป็นแหลมที่อยู่สุดหาดแม่พิมพ์ สถานที่ตั้งของศาลเจ้าแม่พิมพ์ ศาลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวระยอง ศาลแม่พิมพ์ตั้งหันหน้าออกไปยังทะเล ด้านหน้ามีสะพานเล็กๆ ยื่นออกไปยังแนวโขดหินโสโครก เวลาน้ำลง สามารถเดินชมวิวได้ตลอด อีกด้านหนึ่งของศาลแม่พิมพ์ มีทางเดินเล็กๆ ขึ้นไปยังวัดบนเขา สามารถชมวิวหาดแม่พิมพ์จากมุมสูงได้
หาดแม่รำพึง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ในตำบลเพ อำเภอเมือง ห่างจากตลาดบ้านเพประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองระยอง 11 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของระยอง มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นประจำ เพราะเป็นหาดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีแนวทิวสนร่มรื่นตลอดแนวหาด ทรายละเอียดนุ่มเท้า หาดมีความลาดชันน้อย และเรียบเป็นแนวทอดยาว 12 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งเล่นนอนเล่นพักผ่อน ลงเล่นน้ำทะเล และปิคนิคกันบริเวณชายหาด บริเวณนี้มีร้านอาหารร้านค้าให้บริการอยู่หลายแห่งด้วย จึงเป็นหาดที่ค่อนข้างคึกคักตลอดแทบทั้งปี
ช่วงระยะกลางๆ ของแนวชายหาด ทางเทศบาลบ้านเพได้จัดแต่งให้เป็นเหมือนสวนสาธารณะริมทะเล เรียกว่า "ลานหินขาว" เป็นบริเวณที่มีก้อนหินสีขาวใหญ่น้อย ดูสะอาดตา ประดับด้วยการปลูกต้นไม้ ต้นมะพร้าว สนามหญ้า ตกแต่งได้สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งเล่น นั่งปิคนิคริมทะเล และถือเป็นจุดชมวิว ถ่ายรูป ของหาดแม่รำพึง สุดปลายหาดแม่รำพึง เป็นที่ตั้งของ "บ้านก้นอ่าว" เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ และเป็นช่วงที่ต่อกับเขาแหลมหญ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ปลายสุด
ถึงแม้ความสวยงามของหาดแม่รำพึงจะเป็นที่เลื่องลือด้านความสวยงามน่าเที่ยว มีนักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวจากทั่วทุกที่ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องเล่าขานมากมายเกี่ยวกับอันตรายในการลงเล่นน้ำ ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่นที่ไม่เคยรู้ถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อาจทำให้เกิดอันตราย แต่หากนักท่องเที่ยวเข้าใจถึงลักษณะภูมิศาสตร์ทางทะเลของบริเวณนี้แล้วละก็ จะทำให้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายในเวลาลงเล่นน้ำได้
ลักษณะของหาดบริเวณหาดแม่รำพึง อาจมีบางช่วงที่เกิดเป็นสันทรายที่ก่อตัวขึ้นใต้น้ำ และมีการไหลกลับของน้ำไม่สม่ำเสมอ ที่เรียกกันว่า * Rip Current หรือคลื่นดอกเห็ด ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพความลาดชันของทะเล โดยเฉพาะในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (เดือนเมษายน ถึงกันยายน) จะเกิดคลื่นที่ทำให้เกิดสันทรายใต้ทะเลเป็นเหตุให้เกิดคลื่นม้วนตัวบริเวณนั้น
ช่วงระยะกลางๆ ของแนวชายหาด ทางเทศบาลบ้านเพได้จัดแต่งให้เป็นเหมือนสวนสาธารณะริมทะเล เรียกว่า "ลานหินขาว" เป็นบริเวณที่มีก้อนหินสีขาวใหญ่น้อย ดูสะอาดตา ประดับด้วยการปลูกต้นไม้ ต้นมะพร้าว สนามหญ้า ตกแต่งได้สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งเล่น นั่งปิคนิคริมทะเล และถือเป็นจุดชมวิว ถ่ายรูป ของหาดแม่รำพึง สุดปลายหาดแม่รำพึง เป็นที่ตั้งของ "บ้านก้นอ่าว" เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ และเป็นช่วงที่ต่อกับเขาแหลมหญ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ปลายสุด
ถึงแม้ความสวยงามของหาดแม่รำพึงจะเป็นที่เลื่องลือด้านความสวยงามน่าเที่ยว มีนักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวจากทั่วทุกที่ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องเล่าขานมากมายเกี่ยวกับอันตรายในการลงเล่นน้ำ ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่นที่ไม่เคยรู้ถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อาจทำให้เกิดอันตราย แต่หากนักท่องเที่ยวเข้าใจถึงลักษณะภูมิศาสตร์ทางทะเลของบริเวณนี้แล้วละก็ จะทำให้สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายในเวลาลงเล่นน้ำได้
ลักษณะของหาดบริเวณหาดแม่รำพึง อาจมีบางช่วงที่เกิดเป็นสันทรายที่ก่อตัวขึ้นใต้น้ำ และมีการไหลกลับของน้ำไม่สม่ำเสมอ ที่เรียกกันว่า * Rip Current หรือคลื่นดอกเห็ด ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพความลาดชันของทะเล โดยเฉพาะในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (เดือนเมษายน ถึงกันยายน) จะเกิดคลื่นที่ทำให้เกิดสันทรายใต้ทะเลเป็นเหตุให้เกิดคลื่นม้วนตัวบริเวณนั้น
หาดพยูน เป็นหาดที่อยู่ต่อเนื่องไม่ไกลจากหาดพลา และอยู่ตรงกลางระหว่างหาดพลากับหาดน้ำริน ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 32 กิโลเมตร หาดพยูนมีทั้งหาดพยูนเก่า และหาดพยูนใหม่ อยู่ไม่ไกลกัน
หาดพยูนเก่า จะเป็นชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านพยูน เป็นบริเวณที่มีร้านค้าอยู่บ้าง แต่เป็นหาดที่ยังไม่ค่อยได้มีการจัดแต่ง ต้นไม้บริเวณริมหาดจึงดูไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก ด้านซ้ายสุดของหาด (สุดทาง) จะเป็นสะพานข้ามคลองเล็กๆ เรียกว่า “สะพานหลวงเตี่ยบ้านพยูน พ.ศ. 2550” สะพานนี้ข้ามไปจะเป็นศาลหลวงเตี่ยบ้านพยูน มีศาลาสำหรับนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าศาล สะพานนี้สามารถเดินข้ามไปยังหาดพยูนใหม่ได้ แต่รถยนต์ไม่สามารถข้ามมาทางนี้ได้ ต้องขับรถอ้อมไปอีกทาง
หาดพยูนใหม่ เป็นหาดใกล้กับหาดพยูนเก่า มีคลองเล็กๆ ข้างศาลหลวงเตี่ย คั่นอยู่ เวลาขับรถมาต้องเลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกับหาดน้ำรินก่อน แล้วค่อยเลี้ยวขวาลงหาด
เมื่อขับรถมาสุดถนนหน้าหาดพยูน จะเห็นป้ายเป็นพยูนตัวอวบ น่ารักๆ สองตัวยืนพิงห่วงชูชีพ คอยต้อนรับอยู่ ให้รู้ว่าได้มาถึงหาดพยูนแล้วนะ จากนี้จะเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ ด้านขวาจะเห็นเป็นแนวสนสั้นๆ สุดหาดเป็นศาลหลวงเตี่ยบ้านพยูน ที่เชื่อมมาจากหาดพยูนเก่า
ด้านซ้ายจากสามแยกป้ายพยูนน้อย เป็นแนวหาดทรายทอดยาวออกไปไกลกว่า มีแนวต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดริมหาด มีศาลาสำหรับพักผ่อน และเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นอยู่เป็นระยะ ชายหาดหน้ากว้าง น้ำใส ทรายละเอียด และเป็นหาดที่ค่อนข้างเงียบ สงบ ไม่ค่อยมีคน หรือร้านค้ามากนัก เหมาะกับคนที่ต้องการความสงบเงียบ เป็นส่วนตัว และคนไม่พลุกพล่าน วุ่นวาย
หาดพยูนเก่า จะเป็นชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านพยูน เป็นบริเวณที่มีร้านค้าอยู่บ้าง แต่เป็นหาดที่ยังไม่ค่อยได้มีการจัดแต่ง ต้นไม้บริเวณริมหาดจึงดูไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก ด้านซ้ายสุดของหาด (สุดทาง) จะเป็นสะพานข้ามคลองเล็กๆ เรียกว่า “สะพานหลวงเตี่ยบ้านพยูน พ.ศ. 2550” สะพานนี้ข้ามไปจะเป็นศาลหลวงเตี่ยบ้านพยูน มีศาลาสำหรับนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าศาล สะพานนี้สามารถเดินข้ามไปยังหาดพยูนใหม่ได้ แต่รถยนต์ไม่สามารถข้ามมาทางนี้ได้ ต้องขับรถอ้อมไปอีกทาง
หาดพยูนใหม่ เป็นหาดใกล้กับหาดพยูนเก่า มีคลองเล็กๆ ข้างศาลหลวงเตี่ย คั่นอยู่ เวลาขับรถมาต้องเลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกับหาดน้ำรินก่อน แล้วค่อยเลี้ยวขวาลงหาด
เมื่อขับรถมาสุดถนนหน้าหาดพยูน จะเห็นป้ายเป็นพยูนตัวอวบ น่ารักๆ สองตัวยืนพิงห่วงชูชีพ คอยต้อนรับอยู่ ให้รู้ว่าได้มาถึงหาดพยูนแล้วนะ จากนี้จะเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ ด้านขวาจะเห็นเป็นแนวสนสั้นๆ สุดหาดเป็นศาลหลวงเตี่ยบ้านพยูน ที่เชื่อมมาจากหาดพยูนเก่า
ด้านซ้ายจากสามแยกป้ายพยูนน้อย เป็นแนวหาดทรายทอดยาวออกไปไกลกว่า มีแนวต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดริมหาด มีศาลาสำหรับพักผ่อน และเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นอยู่เป็นระยะ ชายหาดหน้ากว้าง น้ำใส ทรายละเอียด และเป็นหาดที่ค่อนข้างเงียบ สงบ ไม่ค่อยมีคน หรือร้านค้ามากนัก เหมาะกับคนที่ต้องการความสงบเงียบ เป็นส่วนตัว และคนไม่พลุกพล่าน วุ่นวาย
หาดพลา อยู่ในตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง ติดกับสนามบินอู่ตะเภา เขตกองทัพเรือสัตหีบแทบจะเป็นเขตรั้วเดียวกันเลย จึงถือเป็นหาดแรกเมื่อข้ามจากเขตชลบุรีเข้าสู่จังหวัดระยอง เป็นหาดที่อยู่ก่อนถึงตัวเมืองระยองประมาณ 34 กิโลเมตร หาดทรายมีสีเปลือกไข่ ทรายละเอียด ไม่มีโคลนเลน สามารถเล่นน้ำได้ ความยาวหาดประมาณ 6 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นหาดเรียบ จากสามแยกหน้าหาด ถ้าไปทางขวา จะเป็นดงต้นสนอยู่กันค่อนข้างหนาแน่น แต่ไม่ถึงกับรก หรือมืดทึบ จึงร่มรื่น และได้เงาจากสนให้บรรยากาศไม่ร้อนจัดในตอนกลางวัน บรรยากาศเย็นสบายน่านั่ง ด้านหน้าหาดมีร้านค้า เตียงผ้าใบ ให้บริการนอนเล่นพักผ่อนริมชายหาด
บริเวณด้านนึงของหาดมีกลุ่มหินโสโครก และที่ซุ้มที่นั่งริมทะเล ส่วนแยกทางซ้ายเมื่อจากสามแยกหน้าหาด กั้นเป็นขอบยกสูง น้ำทะเลช่วงนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ ส่วนใหญ่จะมีเรือประมงมาจอด แต่ก็สามารถเดินเล่นพักผ่อน หรือนั่งรับประทานอาหารริมหาดได้ ซีกด้านนี้ก็มีทิวสนหนาแน่น ร่มรื่น
บริเวณหาดพลามีร้านอาหาร และเครื่องดื่ม มีให้บริการเตียงผ้าใบ ห้องอาบน้ำจืด รวมถึงมีอุปกรณ์สำหรับเล่นน้ำให้เช่า เช่นบริการให้เช่าห่วงยาง หรือเรือแคนนูสำหรับพายเล่นด้วย หากใครต้องการพักค้างคืน ก็สามารถติดต่อที่พักในบริเวณนี้ได้ มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท และบังกะโล
บริเวณด้านนึงของหาดมีกลุ่มหินโสโครก และที่ซุ้มที่นั่งริมทะเล ส่วนแยกทางซ้ายเมื่อจากสามแยกหน้าหาด กั้นเป็นขอบยกสูง น้ำทะเลช่วงนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ ส่วนใหญ่จะมีเรือประมงมาจอด แต่ก็สามารถเดินเล่นพักผ่อน หรือนั่งรับประทานอาหารริมหาดได้ ซีกด้านนี้ก็มีทิวสนหนาแน่น ร่มรื่น
บริเวณหาดพลามีร้านอาหาร และเครื่องดื่ม มีให้บริการเตียงผ้าใบ ห้องอาบน้ำจืด รวมถึงมีอุปกรณ์สำหรับเล่นน้ำให้เช่า เช่นบริการให้เช่าห่วงยาง หรือเรือแคนนูสำหรับพายเล่นด้วย หากใครต้องการพักค้างคืน ก็สามารถติดต่อที่พักในบริเวณนี้ได้ มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท และบังกะโล
สวนรุกขชาติเพ เป็นสถานที่พักผ่อนอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจ และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะคุ้นกับคำว่า "หาดสวนสน" มากกว่า เพราะถนนเส้นเลียบหาดมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนหาดไหน คือมีแนวต้นสนทะเลขึ้นเป็นทิวครึ้มสองฟากฝั่งถนน ด้านหนึ่งของฟากถนนมีต้นไม้ขึ้นทึบเป็นป่า ทั้งต้นสนและต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่เช่น ต้นยาง ต้นตะเคียน ต้นหูกวาง ด้านที่ติดริมชายหาดก็มีแนวสนขึ้นเรียงรายเป็นแถว นับได้ว่าเป็นถนนที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ ใบสนทะเลที่ครึ้มหนาช่วยให้ความร่มรื่น ทอดเงาร่มไม้ปกคลุมถนน เมื่อขับรถผ่านบริเวณนี้ จึงให้บรรยากาศคล้ายกับขับรถลอดผ่านอุโมงค์ขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป และเดินเล่นบริเวณแนวสนนี้ด้วย
หาดสวนสน อยู่ในเขตตำบลบ้านเพ อยู่ถัดมาจากท่าเรือบ้านเพประมาณ 4 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 29 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาปูเสื่อ ปิคนิค นั่งเล่น นอนเล่นริมชายหาด หาดมีขนาดกว้าง มีความลาดเอียงไม่มาก ทรายละเอียด สามารถเล่นน้ำได้ บริเวณหาดสวนสนมีให้บริการที่พัก บังกาโล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นร้านค้า ร้านอาหารทะเล รวมถึงอาหารยอดฮิตจำพวกไก่ย่าง ส้มตำ ที่สามารถซื้อมานั่งกินริมทะเลได้ มีให้บริการเก้าอี้ผ้าใบสำหรับนอนเล่นตากอากาศริมหาด สำหรับคนที่ชอบเล่นน้ำทะเล ก็มีเครื่องเล่นทางน้ำให้บริการหลากหลาย มีให้เช่าทั้งห่วงยาง เจ็ทสกี บานาน่าโบ๊ท เรือกล้วยโซฟา ด้านหน้าหาดเห็นวิวของเกาะเสม็ดอยู่ไม่ไกลนัก นอกจากนี้ในวันที่ฟ้าใส ลมไม่แรงจัดอาจได้เห็นนักเล่นพารามิเตอร์ ร่อนร่มสวยๆ บินอยู่บนน่านน้ำแถวหาดด้วย
สถานที่เที่ยวบริเวณใกล้เคียงหาดสวนสน
- แวะหัวแหลมปากคลองแกลง
จากหาดสวนสน เมื่อไปจนสุดหาดจะเป็นแหลมยื่นออกไป เป็นบริเวณที่เรียกว่า "หัวแหลมปากคลองแกลง" เพราะด้านหนึ่งของแหลมนี้เป็นปากทางของน้ำจากคลองอำเภอแกลงไหลออกสู่ทะเล ปลายสุดของแหลมได้จัดตกแต่งเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งถือเป็นสถานที่ชมวิว เป็นพักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวระยอง และนักท่องเที่ยว นอกจากนี้บริเวณหัวแหลมปากคลองแกลง ยังเป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อโต๊ะกง และศาลเจ้าแม่กวนอิม อีกด้วย
- แวะกราบสักการะศาลเจ้าพ่อโต๊ะกง
ศาลเจ้าพ่อโต๊ะกง ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมปากคลองแกลง ถือเป็นศาลเจ้าที่มีทำเลที่ตั้งดีที่สุดตามลักษณะฮวงจุ้ย เพราะหันหน้าออกทะเล ด้านหลังเป็นเนินเขาเล็กๆ ศาลเจ้าพ่อโต๊ะกงเป็นที่เคารพ และเลื่อมใสศรัทธาของชาวเรือ และชาวระยองเป็นอย่างมาก ในช่วงเทศกาลกินเจของทุกปี (ประมาณปลายกันยายน - ตุลาคม) จะมีผู้ที่มีจิตศรัทธาชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก มาร่วมประกอบพิธีกรรม พิธียกเสาโกเต็ง หรือยกเสาเทวดา เพื่อเป็นการประกาศการเริ่มเข้าสู่การถือศีลกินเจ มีการอัญเชิญองค์ทวยเทพทั้งหลาย มีงานแห่องค์เทพเจ้า ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ และพิธีกรรมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่สำหรับชาวระยอง มีการจัดงานเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน
หาดสวนสน อยู่ในเขตตำบลบ้านเพ อยู่ถัดมาจากท่าเรือบ้านเพประมาณ 4 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 29 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาปูเสื่อ ปิคนิค นั่งเล่น นอนเล่นริมชายหาด หาดมีขนาดกว้าง มีความลาดเอียงไม่มาก ทรายละเอียด สามารถเล่นน้ำได้ บริเวณหาดสวนสนมีให้บริการที่พัก บังกาโล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นร้านค้า ร้านอาหารทะเล รวมถึงอาหารยอดฮิตจำพวกไก่ย่าง ส้มตำ ที่สามารถซื้อมานั่งกินริมทะเลได้ มีให้บริการเก้าอี้ผ้าใบสำหรับนอนเล่นตากอากาศริมหาด สำหรับคนที่ชอบเล่นน้ำทะเล ก็มีเครื่องเล่นทางน้ำให้บริการหลากหลาย มีให้เช่าทั้งห่วงยาง เจ็ทสกี บานาน่าโบ๊ท เรือกล้วยโซฟา ด้านหน้าหาดเห็นวิวของเกาะเสม็ดอยู่ไม่ไกลนัก นอกจากนี้ในวันที่ฟ้าใส ลมไม่แรงจัดอาจได้เห็นนักเล่นพารามิเตอร์ ร่อนร่มสวยๆ บินอยู่บนน่านน้ำแถวหาดด้วย
สถานที่เที่ยวบริเวณใกล้เคียงหาดสวนสน
- แวะหัวแหลมปากคลองแกลง
จากหาดสวนสน เมื่อไปจนสุดหาดจะเป็นแหลมยื่นออกไป เป็นบริเวณที่เรียกว่า "หัวแหลมปากคลองแกลง" เพราะด้านหนึ่งของแหลมนี้เป็นปากทางของน้ำจากคลองอำเภอแกลงไหลออกสู่ทะเล ปลายสุดของแหลมได้จัดตกแต่งเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งถือเป็นสถานที่ชมวิว เป็นพักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวระยอง และนักท่องเที่ยว นอกจากนี้บริเวณหัวแหลมปากคลองแกลง ยังเป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อโต๊ะกง และศาลเจ้าแม่กวนอิม อีกด้วย
- แวะกราบสักการะศาลเจ้าพ่อโต๊ะกง
ศาลเจ้าพ่อโต๊ะกง ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมปากคลองแกลง ถือเป็นศาลเจ้าที่มีทำเลที่ตั้งดีที่สุดตามลักษณะฮวงจุ้ย เพราะหันหน้าออกทะเล ด้านหลังเป็นเนินเขาเล็กๆ ศาลเจ้าพ่อโต๊ะกงเป็นที่เคารพ และเลื่อมใสศรัทธาของชาวเรือ และชาวระยองเป็นอย่างมาก ในช่วงเทศกาลกินเจของทุกปี (ประมาณปลายกันยายน - ตุลาคม) จะมีผู้ที่มีจิตศรัทธาชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก มาร่วมประกอบพิธีกรรม พิธียกเสาโกเต็ง หรือยกเสาเทวดา เพื่อเป็นการประกาศการเริ่มเข้าสู่การถือศีลกินเจ มีการอัญเชิญองค์ทวยเทพทั้งหลาย มีงานแห่องค์เทพเจ้า ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ และพิธีกรรมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่สำหรับชาวระยอง มีการจัดงานเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน