ทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศอีกแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพราะมีธรรมชาติอันงดงาม มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบครบครัน ทั้งที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก มีการคมนาคมที่สะดวก และมีสนามบินเป็นของตัวเอง ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และเติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบปัจจุบันเกาะสมุยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของทะเลอ่าวไทยตอนใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนปีละหลายล้านคน
เกาะสมุยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด ห่างจากชายฝั่งสุราษฎร์ธานี โดยวัดจากท่าเรือดอนสักประมาณ 35 กิโลเมตร แต่ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 84 กิโลเมตร ตัวเกาะมีเนื้อที่ประมาณ 247 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้างพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเกาะสมุยเป็นที่ราบ จึงสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และที่สำคัญคือสามารถสร้างสนามบินได้ ซึ่งอำนวยความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวเกาะสมุยได้เป็นอย่างดีสมุยมีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และแหล่งน้ำ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่สร้างเสน่ห์ให้กับเกาะแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ทิปส์ท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะสมุยคือ ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดจริงๆ คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุด ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง
เกาะสมุยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด ห่างจากชายฝั่งสุราษฎร์ธานี โดยวัดจากท่าเรือดอนสักประมาณ 35 กิโลเมตร แต่ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 84 กิโลเมตร ตัวเกาะมีเนื้อที่ประมาณ 247 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้างพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเกาะสมุยเป็นที่ราบ จึงสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และที่สำคัญคือสามารถสร้างสนามบินได้ ซึ่งอำนวยความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวเกาะสมุยได้เป็นอย่างดีสมุยมีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และแหล่งน้ำ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่สร้างเสน่ห์ให้กับเกาะแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ทิปส์ท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะสมุยคือ ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดจริงๆ คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุด ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง
เกาะพะงัน เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณหาดริ้น ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้เป็นประจำทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ทว่าในช่วงเวลาอื่นๆ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศก็ยังนิยมเดินทางไปเยือนเกาะพะงันกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะพะงันนอกจากชายหาดอันสวยสดงดงามและน้ำทะเลสีครามแล้ว ยังมีธรรมชาติมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ขุนเขา หรือชมวิถีชีวิตชาวสวนมะพร้าวและชาวประมงพื้นบ้าน ที่ยังคงพบเห็นได้ที่บ้านโฉลกหลำด้วยความหลากหลายครบรสของแหล่งท่องเที่ยว เกาะพะงันจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศไม่ควรพลาด
เกาะพะงันมีเนื้อที่ประมาณ 120,625 ไร่ หรือ 168 ตารางกิโลเมตร เป็นอำเภอที่มีพื้นที่น้อยที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ คือ เกาะพะงันและเกาะเต่า พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ชายหาด มีที่ราบเพียง 1 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด มีสันทราย และแนวหินปะการังรอบเกาะเกาะพะงันเป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลาช้านาน สันนิษฐานว่าพวกแรกที่มาอยู่บนเกาะพะงันน่าจะเป็นแขกจากมลายูที่อยู่แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือไม่ก็เป็นพวกแขกที่มาจากปัตตานี โดยโยกย้ายมาอาศัยและประกอบอาชีพทำการประมงเป็นหลัก การที่สันนิษฐานว่าชนกลุ่มแรกบนเกาะพะงันเป็นชาวมลายูก็เพราะสังเกตจากชื่อของเกาะและสถานที่บางแห่งบนเกาะ เช่น คำว่า เกาะพะงัน อดีตนายอำเภอเกาะสมุยกล่าวไว้ว่า เดิมชื่อ “เกาะราฮัม” ซึ่งแปลว่าดำตะคุ่ม หรือเกาะบางเกาะ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะเหล้าหยู ก็มาจากภาษามลายูแต่ในอีกความหมายหนึ่งกล่าวไว้ว่า ชื่อเกาะพะงันมีความหมายมาจากคำว่า “หลังงัน” เป็นภาษาถิ่นหมายถึงสันทรายที่โผล่พ้นน้ำเมื่อยามน้ำลง ชื่อเกาะพะงันนั้นเดิมทีไม่มีสระอะ หลังจากที่ได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอเมื่อ พ.ศ. 2513 และเป็นอำเภอเกาะพะงัน เมื่อ พ.ศ. 2520 ทางราชการได้เพิ่มสระเป็น “พะงัน” จนถึงทุกวันนี้ คำว่า “พงัน” หรือ “พะงัน” จึงมีความหมายเดียวกันเกาะพะงันยังคงความสมบูรณ์และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณยิ่งของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่เสด็จประพาสอำเภอเกาะพะงันถึง 4 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ทุกพระองค์ได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่น้ำตกธารเสด็จ โดยเฉพาะรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสถึง 14 ครั้งเลยทีเดียว
ทิปส์ท่องเที่ยว
เกาะพะงันมีเนื้อที่ประมาณ 120,625 ไร่ หรือ 168 ตารางกิโลเมตร เป็นอำเภอที่มีพื้นที่น้อยที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ คือ เกาะพะงันและเกาะเต่า พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ชายหาด มีที่ราบเพียง 1 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด มีสันทราย และแนวหินปะการังรอบเกาะเกาะพะงันเป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลาช้านาน สันนิษฐานว่าพวกแรกที่มาอยู่บนเกาะพะงันน่าจะเป็นแขกจากมลายูที่อยู่แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือไม่ก็เป็นพวกแขกที่มาจากปัตตานี โดยโยกย้ายมาอาศัยและประกอบอาชีพทำการประมงเป็นหลัก การที่สันนิษฐานว่าชนกลุ่มแรกบนเกาะพะงันเป็นชาวมลายูก็เพราะสังเกตจากชื่อของเกาะและสถานที่บางแห่งบนเกาะ เช่น คำว่า เกาะพะงัน อดีตนายอำเภอเกาะสมุยกล่าวไว้ว่า เดิมชื่อ “เกาะราฮัม” ซึ่งแปลว่าดำตะคุ่ม หรือเกาะบางเกาะ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะเหล้าหยู ก็มาจากภาษามลายูแต่ในอีกความหมายหนึ่งกล่าวไว้ว่า ชื่อเกาะพะงันมีความหมายมาจากคำว่า “หลังงัน” เป็นภาษาถิ่นหมายถึงสันทรายที่โผล่พ้นน้ำเมื่อยามน้ำลง ชื่อเกาะพะงันนั้นเดิมทีไม่มีสระอะ หลังจากที่ได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอเมื่อ พ.ศ. 2513 และเป็นอำเภอเกาะพะงัน เมื่อ พ.ศ. 2520 ทางราชการได้เพิ่มสระเป็น “พะงัน” จนถึงทุกวันนี้ คำว่า “พงัน” หรือ “พะงัน” จึงมีความหมายเดียวกันเกาะพะงันยังคงความสมบูรณ์และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณยิ่งของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่เสด็จประพาสอำเภอเกาะพะงันถึง 4 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ทุกพระองค์ได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่น้ำตกธารเสด็จ โดยเฉพาะรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสถึง 14 ครั้งเลยทีเดียว
ทิปส์ท่องเที่ยว
- ไม่ควรขี่มอเตอร์ไซค์บนเกาะพะงันหากไม่ชำนาญ เพราะเส้นทางค่อนข้างสูงชัน และบางเส้นทางเป็นทางลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อ ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หรือควรเช่ารถประเภทอื่นจะดีกว่า
- การเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ ควรระมัดระวังเรื่องของมีค่าต่างๆ กล้องถ่ายภาพ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ เพราะคนค่อนข้างเยอะ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มตามความเหมาะสมของแต่ละคน เพราะถ้าหากเช่ารถมาจะเป็นอันตรายในขากลับได้
- สำหรับนักเดินป่าที่จะเดินขึ้นไปพักแรมบนยอดเขาหรา ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม และเตรียมอุปกรณ์ให้ครบ ทั้งยา อาหาร น้ำ เครื่องนอนต่างๆ เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยทุกครั้ง
เกาะเต่า เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น “เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย” เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่และสวยงาม อันเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากชนิดจำนวนมาก เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างพากันหมุนเวียนมาเยี่ยมเยือนและสัมผัสกับโลกใต้ทะเลของเกาะสวรรค์แห่งนี้ ปัจจุบันจึงมีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายแห่งมาเปิดกิจการบนเกาะ และมีโรงเรียนสอนดำน้ำจากที่อื่นๆ นิยมแวะเวียนมาใช้เกาะเต่าเป็นสถานที่ฝึกสอนกันอยู่เสมอนอกจากนี้ เกาะเต่ายังมีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ สวยงาม และสงบเงียบ อีกหลายแห่งรอบเกาะ ที่เติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับฉายา “เกาะสวรรค์” และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคและของประเทศ
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย อยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดชุมพรประมาณ 74 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 110 กิโลเมตร ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 64 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะพะงันประมาณ 45 กิโลเมตรด้วยความที่เป็นเกาะที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก มีสภาพธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ในอดีตบริเวณชายหาดรอบๆ เกาะเต่าจึงเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก อันเป็นที่มาของชื่อ “เกาะเต่า” นั่นเอง ปัจจุบันเกาะเต่าเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีเกาะเต่าประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะ ที่อยู่ห่างกันเพียง 480 เมตร คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน เฉพาะเกาะเต่ามีเนื้อที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา มีชายหาดและอ่าวเว้าแหว่งต่างๆ มากมายถึง 11 อ่าว และมีแหลมหินถึง 10 แหลม มีชายฝั่งยาว 28.6 กิโลเมตร และมีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร สภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตรบนเกาะมีถนนคอนกรีตเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักเพียงสายเดียว ทอดยาวจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะ รวมความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร และมีถนนดินลูกรังที่ผู้ประกอบการที่พักแห่งต่างๆ สร้างขึ้น แยกจากถนนสายหลักอีกหลายสาย ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายร่วมร้อยแห่ง กระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่างๆในอดีตสมัยการปกครองของคณะราษฎร์ กรมราชทัณฑ์ได้ใช้เกาะเต่าเป็นเรือนจำคุมขังนักโทษการเมืองรุ่นกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 เนื่องจากเกาะแห่งนี้เป็นเกาะกลางทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ห่างไกลจากฝั่งและเกาะอื่นๆ มีผืนทะเลกว้างไกลเป็นปราการธรรมชาติที่คุมขังนักโทษได้เป็นอย่างดี จึงได้ย้ายนักโทษคดีการเมืองจากเกาะตะรุเตา ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มาคุมขังที่เกาะเต่าแทนนักโทษจำนวนหนึ่งป่วยและตายลงในขณะที่ถูกคุมขังอยู่บนเกาะเต่า จนกระทั่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อมาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้มีมติให้กราบบังคมทูลพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษการเมืองในคดีกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 และคดีกบฏ พ.ศ. 2481 แล้วปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่เกาะเต่าให้เป็นอิสระเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2487หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาอยู่อาศัยบนเกาะเต่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และได้พัฒนามาเรื่อยจนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากในแต่ละปีในปัจจุบัน
ทิปส์ท่องเที่ยว
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย อยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดชุมพรประมาณ 74 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 110 กิโลเมตร ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 64 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะพะงันประมาณ 45 กิโลเมตรด้วยความที่เป็นเกาะที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก มีสภาพธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ในอดีตบริเวณชายหาดรอบๆ เกาะเต่าจึงเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก อันเป็นที่มาของชื่อ “เกาะเต่า” นั่นเอง ปัจจุบันเกาะเต่าเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีเกาะเต่าประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะ ที่อยู่ห่างกันเพียง 480 เมตร คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน เฉพาะเกาะเต่ามีเนื้อที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา มีชายหาดและอ่าวเว้าแหว่งต่างๆ มากมายถึง 11 อ่าว และมีแหลมหินถึง 10 แหลม มีชายฝั่งยาว 28.6 กิโลเมตร และมีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร สภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตรบนเกาะมีถนนคอนกรีตเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักเพียงสายเดียว ทอดยาวจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะ รวมความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร และมีถนนดินลูกรังที่ผู้ประกอบการที่พักแห่งต่างๆ สร้างขึ้น แยกจากถนนสายหลักอีกหลายสาย ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายร่วมร้อยแห่ง กระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่างๆในอดีตสมัยการปกครองของคณะราษฎร์ กรมราชทัณฑ์ได้ใช้เกาะเต่าเป็นเรือนจำคุมขังนักโทษการเมืองรุ่นกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 เนื่องจากเกาะแห่งนี้เป็นเกาะกลางทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ห่างไกลจากฝั่งและเกาะอื่นๆ มีผืนทะเลกว้างไกลเป็นปราการธรรมชาติที่คุมขังนักโทษได้เป็นอย่างดี จึงได้ย้ายนักโทษคดีการเมืองจากเกาะตะรุเตา ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มาคุมขังที่เกาะเต่าแทนนักโทษจำนวนหนึ่งป่วยและตายลงในขณะที่ถูกคุมขังอยู่บนเกาะเต่า จนกระทั่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อมาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้มีมติให้กราบบังคมทูลพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษการเมืองในคดีกบฏวรเดช พ.ศ. 2476 และคดีกบฏ พ.ศ. 2481 แล้วปลดปล่อยนักโทษการเมืองที่เกาะเต่าให้เป็นอิสระเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2487หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาอยู่อาศัยบนเกาะเต่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และได้พัฒนามาเรื่อยจนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากในแต่ละปีในปัจจุบัน
ทิปส์ท่องเที่ยว
- การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนเกาะเต่า ผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญในการขี่ และควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากสภาพทางบางช่วงค่อนข้างสูงชันและอันตราย เช่น ทางไปอ่าวลึก และทางบางเส้นเป็นถนนลูกรัง และควรเลือกเช่ารถจากร้านที่น่าเชื่อถือ โดยสอบถามได้จากที่พักที่ใช้บริการ เนื่องจากรถของร้านเช่าบางแห่งอาจมีสภาพที่ไม่ดี เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หรือทางร้านอาจเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถเป็นจำนวนเงินมากในภายหลังได้
- การเดินขึ้นสู่จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณต้องผ่านป่ารกและบางช่วงสูงชัน ผู้ที่ต้องการเดินขึ้นจึงควรใส่รองเท้าผ้าใบและเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการเดินป่า และควรมีผู้นำทางที่ชำนาญในเส้นทางไปด้วย เนื่องจากเส้นทางไม่ชัดเจน หากไปเองอาจหลงทางได้
- ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับท่องเที่ยวเกาะเต่า คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
เกาะนางยวน สิ่งที่สร้างชื่อให้เกาะนางยวนเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงติดระดับโลกนั้นคือ การเป็นเกาะส่วนตัวที่มีธรรมชาติอันสวยงาม และมีความพิเศษสุดกว่าเกาะอื่นๆ ในทะเลอ่าวไทย โดยภาพที่คุ้นตานักท่องเที่ยวของเกาะนางยวนแห่งนี้ก็คือ ภาพสันทรายสะอาดที่เชื่อมเกาะเล็กๆ สามเกาะเข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นความงดงาม 1 ใน 10 ของโลกที่มาเยือนแล้วก็ต้องไม่พลาดขึ้นไปเที่ยวชมจุดชมวิวของสุดยอดเกาะส่วนตัวแห่งนี้กัน
เกาะนางยวน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า หากมองในแผนที่จะเห็นเกาะนางยวนเป็นติ่งต่อท้ายเกาะเต่า จึงมีหลายคนยกให้เกาะนางยวนเป็นหางของเกาะเต่า ลักษณะของเกาะนางยวนเป็นจุดเด่นที่หลายคนรู้จักกันดีก็คือ การเป็นเกาะหินเล็กๆ 3 เกาะ เชื่อมต่อกันด้วยสันทรายขาวสะอาด โดยภูเขาทั้ง 3 ลูกหันหน้าเข้าหากัน มีลูกใหญ่ 1 ลูก และลูกเล็กอีก 2 ลูก บริเวณโดยรอบของภูเขาทั้ง 3 มีท่าเรือ ร้านอาหารและบ้านพักของนางยวน ไอส์แลนด์ ไดฟ์ รีสอร์ท ให้บริการเพียงแห่งเดียวบนเกาะนางยวนแห่งนี้
สิ่งที่คุณควรทำเมื่อคุณมาถึงเกาะนางยวนแห่งนี้ คือ การเดินเที่ยวชมทัศนียภาพของเกาะนางยวน ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชมมีอยู่ 3 จุด ใหญ่ๆ คือ จุดชมวิวของเกาะ สันทรายเชื่อมสามเกาะ และ กิจกรรมดำน้ำชมปะการัง อันดับแรกคุณอาจจะเลือกขึ้นไปเที่ยวชมจุดชมวิวก่อน จุดชมวิวนนี้ตั้งอยู่บนเกาะทางด้านซ้าย เส้นทางขึ้นไปเที่ยวชมเป็นบันไดปูนสร้างไว้อย่างดี ใช้เวลาเดินประมาน 15 นาทีก็จะถึงยอกเขา บริเวณจุดชมวิวนี้เป็นลานหินก้อนใหญ่ เมื่อมองออกไปจะพบวิวทะเลสีคราม และสันทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะไว้อย่างสวยงาม หลังจากขึ้นไปชมทัศนียภาพของเกาะนางยวนกันแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือคุณอาจเลือกเล่นน้ำบริเวณสันทราย นั่งพักผ่อนบนเตียงผ้าใบเพื่อเก็บภาพประทับใจ
กิจกรรมบนเกาะนางยวนที่น่าสนใจ คือ การพายเรือคายัก และดำน้ำชมปะการัง โดยเกาะนางยวนเป็นเกาะที่พายเรือสนุก เพราะตามเวิ้งอ่าวต่างๆ มีเกาะสามเกาะช่วยบดบังลม น้ำทะเลในบริเวณเกาะนางยวนจึงนิ่งทำให้การพายเรือคายักสนุกกว่าที่อื่นๆ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง บนเกาะนางยวนแห่งนี้มีศูนย์สอนดำน้ำแบบ Scuba และการพาทัวร์ดำน้ำแบบ Scuba ในจุดดำน้ำชมปะการังบริเวณเกาะนางยวน และเกาะเต่าที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการการดำน้ำแบบ Snorkeling เพื่อชมความสวยงามของเหล่าปะการังและฝูงปลาบริเวณสันทรายของเกาะอีกด้วย
การเดินทาง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเกาะนางยวนจากอ่าวทุ่งมะขามน้อย จังหวัดชุมพร เพราะระยะทางใกล้กว่าเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังสะดวกสบายกว่าด้วย
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เดือนกุมภาพันธ์-เดือนตุลาคม
เกาะนางยวน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า หากมองในแผนที่จะเห็นเกาะนางยวนเป็นติ่งต่อท้ายเกาะเต่า จึงมีหลายคนยกให้เกาะนางยวนเป็นหางของเกาะเต่า ลักษณะของเกาะนางยวนเป็นจุดเด่นที่หลายคนรู้จักกันดีก็คือ การเป็นเกาะหินเล็กๆ 3 เกาะ เชื่อมต่อกันด้วยสันทรายขาวสะอาด โดยภูเขาทั้ง 3 ลูกหันหน้าเข้าหากัน มีลูกใหญ่ 1 ลูก และลูกเล็กอีก 2 ลูก บริเวณโดยรอบของภูเขาทั้ง 3 มีท่าเรือ ร้านอาหารและบ้านพักของนางยวน ไอส์แลนด์ ไดฟ์ รีสอร์ท ให้บริการเพียงแห่งเดียวบนเกาะนางยวนแห่งนี้
สิ่งที่คุณควรทำเมื่อคุณมาถึงเกาะนางยวนแห่งนี้ คือ การเดินเที่ยวชมทัศนียภาพของเกาะนางยวน ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชมมีอยู่ 3 จุด ใหญ่ๆ คือ จุดชมวิวของเกาะ สันทรายเชื่อมสามเกาะ และ กิจกรรมดำน้ำชมปะการัง อันดับแรกคุณอาจจะเลือกขึ้นไปเที่ยวชมจุดชมวิวก่อน จุดชมวิวนนี้ตั้งอยู่บนเกาะทางด้านซ้าย เส้นทางขึ้นไปเที่ยวชมเป็นบันไดปูนสร้างไว้อย่างดี ใช้เวลาเดินประมาน 15 นาทีก็จะถึงยอกเขา บริเวณจุดชมวิวนี้เป็นลานหินก้อนใหญ่ เมื่อมองออกไปจะพบวิวทะเลสีคราม และสันทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะไว้อย่างสวยงาม หลังจากขึ้นไปชมทัศนียภาพของเกาะนางยวนกันแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือคุณอาจเลือกเล่นน้ำบริเวณสันทราย นั่งพักผ่อนบนเตียงผ้าใบเพื่อเก็บภาพประทับใจ
กิจกรรมบนเกาะนางยวนที่น่าสนใจ คือ การพายเรือคายัก และดำน้ำชมปะการัง โดยเกาะนางยวนเป็นเกาะที่พายเรือสนุก เพราะตามเวิ้งอ่าวต่างๆ มีเกาะสามเกาะช่วยบดบังลม น้ำทะเลในบริเวณเกาะนางยวนจึงนิ่งทำให้การพายเรือคายักสนุกกว่าที่อื่นๆ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง บนเกาะนางยวนแห่งนี้มีศูนย์สอนดำน้ำแบบ Scuba และการพาทัวร์ดำน้ำแบบ Scuba ในจุดดำน้ำชมปะการังบริเวณเกาะนางยวน และเกาะเต่าที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการการดำน้ำแบบ Snorkeling เพื่อชมความสวยงามของเหล่าปะการังและฝูงปลาบริเวณสันทรายของเกาะอีกด้วย
การเดินทาง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเกาะนางยวนจากอ่าวทุ่งมะขามน้อย จังหวัดชุมพร เพราะระยะทางใกล้กว่าเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังสะดวกสบายกว่าด้วย
ช่วงเวลาการท่องเที่ยว
เดือนกุมภาพันธ์-เดือนตุลาคม
หมู่เกาะอ่างทอง อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 32 กิโลเมตร ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองในปี พ.ศ. 2523 ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่รวมกว่า 42 เกาะ หมู่เกาะอ่างทองนับว่าเป็นหมู่เกาะที่ได้รับการขนานนามว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลอ่าวไทย ดังสมญานามว่า “อ่างทองของอ่าวไทย” ลักษณะทั่วไปของหมู่เกาะอ่างทองจะเป็นเกาะหินปูนสูงชัน แม้ว่าจะมีเกาะบริวารอยู่มากถึง 42 เกาะ แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมมีเพียงเกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นที่ตั้งทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า และเกาะท้ายเพลาเท่านั้น สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ช่วงปลายเดือนมกราคม – ปลายเดือนตุลาคม
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง นับเป็นรายการท่องเที่ยวแบบเช้าไปบ่ายกลับจากเกาะสมุยมาช้านาน ทุกเช้าในฤดูท่องเที่ยวจะมีเรือทัวร์ให้บริการหลายเจ้า ส่วนใหญ่จะมีโปรแกรมคล้ายๆกันคือ เช้าไปบ่ายกลับ พาเที่ยวเกาะใหญ่ที่เป็นไฮไลท์ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ และพายเรือคายักที่ เกาะสามเส้า และเกาะท้ายเพลา ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลด้วย
เกาะแม่เกาะ เป็นหนึ่งในเกะบริวารของหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ทิศเหนือของเกาะวัวตาหลับ ลักษณะเกาะจะเป็นภูเขาหินปูนสูงชันโดยรอบมีชายหาดอยู่ทางทิศตะวันออกเพียงแห่งเดียว เรือนำเที่ยวจะลอยลำกลางทะเล จากนั้นจะพาคุณลงเรือหางยาวเข้าไปยังชายหาดหน้าเกาะ ซึ่งมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองตั้งอยู่ จากนั้นต้องเดินขึ้นบันไดไม้ไต่ข้ามภูเขาเพื่อเข้าไปชม ทะเลใน เนื่องจากพื้นที่กลางเกาะนั้นเป็นอ่าวที่ล้อมรอบด้วยภูเขา มีโพรงถ้าที่น้ำทะเลไหลเข้าออกได้ เรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่กลางเกาะ ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีการทำสะพานไม้ไว้อย่างดีเพื่อชมทิวทัศน์ แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำเพราะระดับน้ำลึกมาก ระหว่างทางไปชมวิวทะเลใน บริเวณยอดเขาสูงสุดยังสามารถชมวิวทิวทัศน์มองเห็นเกาะบริวารอื่นๆ เช่น เกาะสามเส้า และ เกาะท้ายเพลา ที่อยู่ไกลสุดทางทิศเหนือได้สวยงาม
หลังเที่ยวชมวิวทะเลในแล้ว เรือนำเที่ยวจะพาคุณเดินทางมายัง เกาะวัวตาหลับ นอกจากนี้จะเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองแล้ว บนเกาะยังมีจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามมากแห่งหนึ่งของทะเลสุราษฎร์ธานีที่คุณไม่ควรพลาดชม หลังจากเรือหางยาวนำคุณขึ้นสู่ชายหาดอ่าวตา คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นน้ำ อาบแดดหรือพายคายักท่าหดอ่าวคาก็ได้ ส่วนใครที่อยากไปชมวิวก็ใส่รองเท้าผ้าใบแล้วไปเดินป่ากัน
เส้นทางเดินป่าขึ้นไปยัง จุดชมวิวผาจรัสจันทร์ จุดชมวิวที่สวยที่สุดของทะเลสุราษฎร์ธานีนั้นอาจจะลำบากไปเสียหน่อย เพราะต้องไต่ตามหน้าผาหินปูนที่ค่อนข้างคมและชัน ระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่ก็นับว่าคุ้มค่าที่สุด ระหว่างทางขึ้นสู่ผาจรัสจันทร์จะผ่านจุดชมวิวผาสลัดได ก่อนบริเวณนั้นอยู่ห่างจากหาดอ่าวคาเพียง 100 เมตร เป็นจุดชมวิวหาดอ่าวคาในมุมสูงที่สวยแปลกตา จากนั้นต้องเดินไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงยอดจะมีเชือกไว้ให้ดึงตัวขึ้น เพราะเส้นทางเริ่มลาดชันมากนั่นเอง หลังจากเหนื่อยพอสมควรจนถึงยอดเขาสูงสุดจะเป็นระเบียงไม้ที่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สร้างไว้บนหน้าผาจรัสจันทร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ยืนชมทิวทัศน์ ซึ่งจะมองเห็นทีทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่เบื้องล่างเห็นหาดอ่าวคา และหมู่เกาะบริวารอื่นๆ ที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะวัวตาหลับได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมาก แต่สงวนไว้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนบนเกาะเท่านั้น
สำหรับคนที่อยากนอนค้างที่เกาะสักคืนไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบนเกาะวัวตาหลับเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งมีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวจำนวน 5 หลัง พักได้ทั้งแบบห้องเดี่ยว 2 คน บ้าน 2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำและบ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์ จะเตรียมเต็นท์มาเอง หรือติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองก็ได้ มีหลายขนาดให้เลือกทั้งเต็นท์สำหรับ 2 คน เต็นท์สำหรับ 3-5 คน และเต็นท์ใหญ่พักได้ 8-10 คน สำหรับเรือนำเที่ยวที่มีบริการรับ-ส่ง จากรีสอร์ต-ท่าเรือและจากท่าเรือกลับสู่รีสอร์ต โดยที่คุณไม่ต้องขับรถมาที่ท่าเรือเอง ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องจอดตากแดดให้สีถลอกและยังมีเรือมีเสื้อชูชีพ ห้องน้ำ ไกด์นำเที่ยว บริการอาหารกลางวัน น้ำดื่ม ของว่าง เรียกได้ว่าจ่ายเงินครั้งเดียวบริการคุณฟรีตลอดการเดินทางเลยทีเดียว
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง นับเป็นรายการท่องเที่ยวแบบเช้าไปบ่ายกลับจากเกาะสมุยมาช้านาน ทุกเช้าในฤดูท่องเที่ยวจะมีเรือทัวร์ให้บริการหลายเจ้า ส่วนใหญ่จะมีโปรแกรมคล้ายๆกันคือ เช้าไปบ่ายกลับ พาเที่ยวเกาะใหญ่ที่เป็นไฮไลท์ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ และพายเรือคายักที่ เกาะสามเส้า และเกาะท้ายเพลา ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลด้วย
เกาะแม่เกาะ เป็นหนึ่งในเกะบริวารของหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ทิศเหนือของเกาะวัวตาหลับ ลักษณะเกาะจะเป็นภูเขาหินปูนสูงชันโดยรอบมีชายหาดอยู่ทางทิศตะวันออกเพียงแห่งเดียว เรือนำเที่ยวจะลอยลำกลางทะเล จากนั้นจะพาคุณลงเรือหางยาวเข้าไปยังชายหาดหน้าเกาะ ซึ่งมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองตั้งอยู่ จากนั้นต้องเดินขึ้นบันไดไม้ไต่ข้ามภูเขาเพื่อเข้าไปชม ทะเลใน เนื่องจากพื้นที่กลางเกาะนั้นเป็นอ่าวที่ล้อมรอบด้วยภูเขา มีโพรงถ้าที่น้ำทะเลไหลเข้าออกได้ เรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่กลางเกาะ ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีการทำสะพานไม้ไว้อย่างดีเพื่อชมทิวทัศน์ แต่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำเพราะระดับน้ำลึกมาก ระหว่างทางไปชมวิวทะเลใน บริเวณยอดเขาสูงสุดยังสามารถชมวิวทิวทัศน์มองเห็นเกาะบริวารอื่นๆ เช่น เกาะสามเส้า และ เกาะท้ายเพลา ที่อยู่ไกลสุดทางทิศเหนือได้สวยงาม
หลังเที่ยวชมวิวทะเลในแล้ว เรือนำเที่ยวจะพาคุณเดินทางมายัง เกาะวัวตาหลับ นอกจากนี้จะเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองแล้ว บนเกาะยังมีจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามมากแห่งหนึ่งของทะเลสุราษฎร์ธานีที่คุณไม่ควรพลาดชม หลังจากเรือหางยาวนำคุณขึ้นสู่ชายหาดอ่าวตา คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นน้ำ อาบแดดหรือพายคายักท่าหดอ่าวคาก็ได้ ส่วนใครที่อยากไปชมวิวก็ใส่รองเท้าผ้าใบแล้วไปเดินป่ากัน
เส้นทางเดินป่าขึ้นไปยัง จุดชมวิวผาจรัสจันทร์ จุดชมวิวที่สวยที่สุดของทะเลสุราษฎร์ธานีนั้นอาจจะลำบากไปเสียหน่อย เพราะต้องไต่ตามหน้าผาหินปูนที่ค่อนข้างคมและชัน ระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่ก็นับว่าคุ้มค่าที่สุด ระหว่างทางขึ้นสู่ผาจรัสจันทร์จะผ่านจุดชมวิวผาสลัดได ก่อนบริเวณนั้นอยู่ห่างจากหาดอ่าวคาเพียง 100 เมตร เป็นจุดชมวิวหาดอ่าวคาในมุมสูงที่สวยแปลกตา จากนั้นต้องเดินไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงยอดจะมีเชือกไว้ให้ดึงตัวขึ้น เพราะเส้นทางเริ่มลาดชันมากนั่นเอง หลังจากเหนื่อยพอสมควรจนถึงยอดเขาสูงสุดจะเป็นระเบียงไม้ที่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สร้างไว้บนหน้าผาจรัสจันทร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ยืนชมทิวทัศน์ ซึ่งจะมองเห็นทีทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่เบื้องล่างเห็นหาดอ่าวคา และหมู่เกาะบริวารอื่นๆ ที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะวัวตาหลับได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมาก แต่สงวนไว้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนบนเกาะเท่านั้น
สำหรับคนที่อยากนอนค้างที่เกาะสักคืนไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบนเกาะวัวตาหลับเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งมีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวจำนวน 5 หลัง พักได้ทั้งแบบห้องเดี่ยว 2 คน บ้าน 2 ห้องนอน 1-2 ห้องน้ำและบ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์ จะเตรียมเต็นท์มาเอง หรือติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองก็ได้ มีหลายขนาดให้เลือกทั้งเต็นท์สำหรับ 2 คน เต็นท์สำหรับ 3-5 คน และเต็นท์ใหญ่พักได้ 8-10 คน สำหรับเรือนำเที่ยวที่มีบริการรับ-ส่ง จากรีสอร์ต-ท่าเรือและจากท่าเรือกลับสู่รีสอร์ต โดยที่คุณไม่ต้องขับรถมาที่ท่าเรือเอง ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องจอดตากแดดให้สีถลอกและยังมีเรือมีเสื้อชูชีพ ห้องน้ำ ไกด์นำเที่ยว บริการอาหารกลางวัน น้ำดื่ม ของว่าง เรียกได้ว่าจ่ายเงินครั้งเดียวบริการคุณฟรีตลอดการเดินทางเลยทีเดียว