ทะเลจังหวัดตราด
เกาะกระดาด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก มีพื้นที่ 1,200 ไร่ เป็นเกาะกลางทะเลกว้างที่มีสัณฐานแบนราบราวกับแผ่นกระดาษ มีต้นกระดาดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า “เกาะกระดาด” นับเป็นเกาะเดียวในประเทศไทยที่มีการออกโฉนดถูกต้องตามกฏหมาย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากฝรั่งเศสได้เข้ามาล่าอาณานิคมในแถบเอเชียอาคเนย์ และพยายามยึดครองดินแดนของไทย เกาะกระดาดก็เป็นที่หมายหนึ่งของฝรั่งเศสด้วย รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกโฉนดที่ดินของเกาะ เกาะกระดาดมีหาดทรายยาวขาวสะอาด มีแนวปะการังที่สวยงามตลอดชายฝั่ง บนเกาะมีที่พัก ช่วงเวลาที่เหมาะท่องเที่ยว คือช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม เพราะมีคลื่นลมน้อยที่สุด และเกาะกระดาดเป็นเกาะที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน UNSEEN THAILAND
การเดินทาง ไปเกาะกระดาดไม่มีเรือโดยสารประจำทางบริการนักท่องเที่ยวโดยตรง นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อแพคเกจทัวร์ของเกาะกระดาด รีสอร์ทใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2-3 ชั่วโมง สอบถามข้อมูล โทร. 08 1432 8027 กรุงเทพฯ โทร. 0 2368 2675, 0 2368 2634
การเดินทาง ไปเกาะกระดาดไม่มีเรือโดยสารประจำทางบริการนักท่องเที่ยวโดยตรง นักท่องเที่ยวจะต้องซื้อแพคเกจทัวร์ของเกาะกระดาด รีสอร์ทใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2-3 ชั่วโมง สอบถามข้อมูล โทร. 08 1432 8027 กรุงเทพฯ โทร. 0 2368 2675, 0 2368 2634
เกาะกูด เกาะสุดท้ายปลายทะเลตะวันออกในจังหวัดตราดของไทย ติดชายแดนทางทะเลของกัมพูชา ด้วยความที่เป็นเกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจากเกาะช้าง ทำให้ดินแดนแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มากมาย และสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวและการพักผ่อนด้วยพื้นที่ที่เป็นภูเขาและที่ราบสันเขา จึงเป็นต้นกำเนิดลำห้วยต่างๆ ซึ่งก็ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง บนเกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยว คือชายหาดเนียนละเอียด เคียงข้างน้ำทะเลใสแจ๋ว อีกทั้งยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังนานาชนิด จนได้รับสมญานามว่า “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก”
เกาะกูดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ ความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร ความกว้าง 12 กิโลเมตร เกาะกูดยังมีสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกที่มีชื่อเสียง อย่างน้ำตกคลองเจ้า น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 พระราชทานนามว่าน้ำตกอนัมก๊ก เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 1ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ นับตั้งแต่อ่าวยายกี๋ หาดคลองเจ้า หาดอ่าวพร้าว อ่าวง่ามโข่ หาดอ่าวเบ้า หาดคลองหิน อ่าวพร้าว ไปจนสุดปลายแหลมเทียน ล้วนแต่เป็นหาดที่มีทรายสวยงาม น้ำทะเลใส ประกอบกับธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังหลากชนิด รวมทั้งเกาะแรดและเกาะไม้ ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะกูดเกาะกูดเริ่มปรากฏหลักฐานตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อองค์เชียงสือ เจ้าเมืองญวนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ หนีออกจากกรุงเทพฯ มาลงเรือที่เกาะสีชัง จากนั้นแล่นเรือชักใบในอ่าวไทยมา 7 วันจึงถึงเกาะกูดที่ไม่มีคนอยู่เลย ชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่อพยพมาจากเมืองปัจจันตคีรีเขตร์ (เกาะกง) ที่ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2447 มีหมู่บ้านหลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดอำเภอเกาะกูดประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยรวม 24 เกาะ โดยแบ่งเป็น 3 หมู่เกาะ หมู่เกาะกูด มี 3 เกาะ ได้แก่ เกาะกูด เกาะแรด และเกาะไม้ชี้ หมู่เกาะหมาก มี 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหมาก เกาะระยั้งใน เกาะระยั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะนก เกาะนอก และเกาะใน หมู่เกาะรัง มี 12 เกาะ ได้แก่ เกาะรังใหญ่ เกาะรังเล็ก เกาะตุ๊น เกาะกระ เกาะเทียน เกาะทองหลาง เกาะมะปริง เกาะยักษ์ เกาะกำปั่น เกาะใหญ่ เกาะกลาง และเกาะเล็กชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทย และคนเขมรในเกาะกงที่อพยพเข้ามาเมื่อสมัยเมืองปัจจันตคีรีเขตร์ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสราวปี พ.ศ. 2447 มีหมู่บ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันชาวเกาะยังดำรงชีพด้วยเกษตรกรรม ทั้งทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้เพียงเล็กน้อย และทำประมงชายฝั่ง บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เกาะกูดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ ความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร ความกว้าง 12 กิโลเมตร เกาะกูดยังมีสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกที่มีชื่อเสียง อย่างน้ำตกคลองเจ้า น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 พระราชทานนามว่าน้ำตกอนัมก๊ก เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 1ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ นับตั้งแต่อ่าวยายกี๋ หาดคลองเจ้า หาดอ่าวพร้าว อ่าวง่ามโข่ หาดอ่าวเบ้า หาดคลองหิน อ่าวพร้าว ไปจนสุดปลายแหลมเทียน ล้วนแต่เป็นหาดที่มีทรายสวยงาม น้ำทะเลใส ประกอบกับธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังหลากชนิด รวมทั้งเกาะแรดและเกาะไม้ ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะกูดเกาะกูดเริ่มปรากฏหลักฐานตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อองค์เชียงสือ เจ้าเมืองญวนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ หนีออกจากกรุงเทพฯ มาลงเรือที่เกาะสีชัง จากนั้นแล่นเรือชักใบในอ่าวไทยมา 7 วันจึงถึงเกาะกูดที่ไม่มีคนอยู่เลย ชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่อพยพมาจากเมืองปัจจันตคีรีเขตร์ (เกาะกง) ที่ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2447 มีหมู่บ้านหลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดอำเภอเกาะกูดประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยรวม 24 เกาะ โดยแบ่งเป็น 3 หมู่เกาะ หมู่เกาะกูด มี 3 เกาะ ได้แก่ เกาะกูด เกาะแรด และเกาะไม้ชี้ หมู่เกาะหมาก มี 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหมาก เกาะระยั้งใน เกาะระยั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะนก เกาะนอก และเกาะใน หมู่เกาะรัง มี 12 เกาะ ได้แก่ เกาะรังใหญ่ เกาะรังเล็ก เกาะตุ๊น เกาะกระ เกาะเทียน เกาะทองหลาง เกาะมะปริง เกาะยักษ์ เกาะกำปั่น เกาะใหญ่ เกาะกลาง และเกาะเล็กชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทย และคนเขมรในเกาะกงที่อพยพเข้ามาเมื่อสมัยเมืองปัจจันตคีรีเขตร์ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสราวปี พ.ศ. 2447 มีหมู่บ้านคลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันชาวเกาะยังดำรงชีพด้วยเกษตรกรรม ทั้งทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว สวนผลไม้เพียงเล็กน้อย และทำประมงชายฝั่ง บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เกาะขาม เกาะขาม เป็นเกาะส่วนตัวเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับ เกาะหมาก จังหวัดตราด ลักษณะเด่นของเกาะขาม คือ มีธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ หาดทรายขาว (สันทราย) ทอดยาวออกไปในทะเลประมาณ 300 เมตร และหมู่หินภูเขาไฟตั้งอยู่เรียงรายกับแนวปะการังหลากชนิด รอบ ๆ เกาะขามมีน้ำทะเลใสตลอดปี จนได้ฉายาว่า "ไข่มุกมรกตแห่งทะเลตราด"
อาณาบริเวณของเกาะขามทิศตะวันออกมีสันทรายยื่นออกไปในทะเล และหาดส่วนตัวยาวประมาณ 200 เมตร ทำให้เกาะขามมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมความงดงามของธรรมชาติแห่งนี้ ทิศตะวันตกเป็นแนวเขา ซึ่งมีป่าไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นอุดมไปด้วยกล้วยไม้ป่าหวายและสมุนไพรหลาย ๆ ชนิด
นอกจากนี้ แล้วบนเขายังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ของหมู่เกาะต่าง ๆ ในละแวกนี้ และเป็นที่มาของจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามจุดหนึ่งของเกาะขาม และบริเวณรอบ ๆ เกาะขามยังอุดมไปด้วยหมู่ปะการังนานาชนิด, ดอกไม้ทะเลสีสดใส, ปลาสวยงาม และหอยมือเสือ เป็นต้น ทำให้นักดำน้ำได้เพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติใต้ทะเลอีกด้วย
แม้ว่า เกาะขาม จะเป็นเกาะส่วนตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เกาะใดในทะเลตราด ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ด้วยเรือเร็ว คุณก็จะพบกับอีกโลกหนึ่งที่เงียบสงบและสวยงามเกินบรรยากาศ ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติม ททท.สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0-3959-7259-60
การเดินทาง
เส้นทางหลวงหมายเลข 3 กรุงเทพฯ-ตราด ระยะทาง 315 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางตราด – แหลมงอบ 3 กิโลเมตร เจอทางแยกซ้ายให้เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3155 มุ่งหน้าแหลมศอก บ้านอ่าวช่อ เดินทางสุดถนนจะเป็นท่าเทียบเรือแหลมศอก เพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะขาม
อาณาบริเวณของเกาะขามทิศตะวันออกมีสันทรายยื่นออกไปในทะเล และหาดส่วนตัวยาวประมาณ 200 เมตร ทำให้เกาะขามมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมความงดงามของธรรมชาติแห่งนี้ ทิศตะวันตกเป็นแนวเขา ซึ่งมีป่าไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นอุดมไปด้วยกล้วยไม้ป่าหวายและสมุนไพรหลาย ๆ ชนิด
นอกจากนี้ แล้วบนเขายังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ของหมู่เกาะต่าง ๆ ในละแวกนี้ และเป็นที่มาของจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามจุดหนึ่งของเกาะขาม และบริเวณรอบ ๆ เกาะขามยังอุดมไปด้วยหมู่ปะการังนานาชนิด, ดอกไม้ทะเลสีสดใส, ปลาสวยงาม และหอยมือเสือ เป็นต้น ทำให้นักดำน้ำได้เพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติใต้ทะเลอีกด้วย
แม้ว่า เกาะขาม จะเป็นเกาะส่วนตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เกาะใดในทะเลตราด ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ด้วยเรือเร็ว คุณก็จะพบกับอีกโลกหนึ่งที่เงียบสงบและสวยงามเกินบรรยากาศ ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติม ททท.สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0-3959-7259-60
การเดินทาง
เส้นทางหลวงหมายเลข 3 กรุงเทพฯ-ตราด ระยะทาง 315 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางตราด – แหลมงอบ 3 กิโลเมตร เจอทางแยกซ้ายให้เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3155 มุ่งหน้าแหลมศอก บ้านอ่าวช่อ เดินทางสุดถนนจะเป็นท่าเทียบเรือแหลมศอก เพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะขาม
เกาะช้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ อีกแห่งหนึ่งของประเทศ เพราะมีธรรมชาติอันงดงามทั้งบนบกและในทะเล มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก มีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำ มีการคมนาคมที่สะดวกเพราะมีสนามบินอยู่ใกล้เคียง ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และเติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบเกาะช้างเหมาะสำหรับการไปเที่ยวทั้งเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว และไปกับคู่รัก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนเกาะช้างเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต โดยมีเนื้อที่ประมาณ 429 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 2.6 แสนไร่ ตั้งอยู่ห่างจากแหลมงอบประมาณ 8 กิโลเมตร เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอแหลมงอบ แต่ปัจจุบันถูกตั้งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด มีสถานที่ราชการทั้งที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล และเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างลักษณะภูมิประเทศของเกาะช้าง ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีผาหินสลับซับซ้อน มียอดเขาที่สูงที่สุดคือเขาสลักเพชร สูง 743 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ อันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกและลำธารหลายสาย ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและสรรพชีวิตบนเกาะ และมีพื้นที่บางส่วนที่เป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ด้วยนอกจากนี้ เกาะช้างยังมีชายหาดธรรมชาติสวยงามอยู่มากมายเรียงรายอยู่ตลอดชายฝั่งด้านตะวันตก เช่น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ และมีเกาะขนาดเล็กรายล้อมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เช่น เกาะคลุ้ม เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะไม้ซี้ใหญ่ เกาะหวาย เกาะกระ เกาะรัง เกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะกระดาด เกาะหมาก เกาะขาม ฯลฯ
ทิปส์ท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะช้าง คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง
เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต โดยมีเนื้อที่ประมาณ 429 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 2.6 แสนไร่ ตั้งอยู่ห่างจากแหลมงอบประมาณ 8 กิโลเมตร เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอแหลมงอบ แต่ปัจจุบันถูกตั้งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด มีสถานที่ราชการทั้งที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล และเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างลักษณะภูมิประเทศของเกาะช้าง ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีผาหินสลับซับซ้อน มียอดเขาที่สูงที่สุดคือเขาสลักเพชร สูง 743 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ อันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกและลำธารหลายสาย ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและสรรพชีวิตบนเกาะ และมีพื้นที่บางส่วนที่เป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ด้วยนอกจากนี้ เกาะช้างยังมีชายหาดธรรมชาติสวยงามอยู่มากมายเรียงรายอยู่ตลอดชายฝั่งด้านตะวันตก เช่น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ และมีเกาะขนาดเล็กรายล้อมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เช่น เกาะคลุ้ม เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะไม้ซี้ใหญ่ เกาะหวาย เกาะกระ เกาะรัง เกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะกระดาด เกาะหมาก เกาะขาม ฯลฯ
ทิปส์ท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะช้าง คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง